ไม่พบผลการค้นหา
‘นายกฯ‘ สั่งการ ’รักษาราชการ ผบ.ตร.‘ ลงพื้นที่ชายแดนใต้ด่วน หลังเกิดความไม่สงบกว่า 30 จุด เพื่อกำชับเรื่องความปลอดภัยประชาชน-สร้างขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่

วันที่ 22 มี.ค. ที่อาคารรัฐสภา เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แล้วเมื่อสักครู่นี้ รักษาการ ผบ.ตร. จะลงพื้นที่ทันที 

เศรษฐา เชื่อว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น มาจากในช่วงเดือนรอมฎอนที่เขามักจะแสดงกำลัง นอกจากนี้ยังได้โทรศัพท์หา พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งท่านก็แสดงความเป็นห่วง และได้สั่งการแม่ทัพภาค 4 ไปแล้วซึ่งจะต้องมีการรวบรวมข้อมูลอีกครั้งหนึ่ง 

ส่วนจะมองว่าเป็นความเกี่ยวเนื่องกับวันครบรอบ 20 ปี เหตุการณ์ตากใบหรือไม่นั้น เศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ 

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้หารือกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รักษาการ ผบ.ตร. และพล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนไปลงพื้นที่ภารกิจอื่นต่อไป


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์ในภาคใต้ ที่เกิดความรุนแรงหลังครบรอบ 20 ปีตากใบ ว่า ตอนนี้ได้รับรายงานว่าเกิดเหตุความรุนแรงในพื้นที่ 31 จุด ซึ่งตนจะรีบลงพื้นที่ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กำชับเรื่องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน เชื่อว่าผู้ก่อความไม่สงบจะหาโอกาสก่อเหตุ 

ทั้งนี้เตรียมประสานกับแม่ทัพภาค 4 และในช่วงเช้าได้กำชับ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ลงพื้นที่ตรวจเข้ม ในพื้นที่เกิดเหตุ และรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการและบ้านพัก ซึ่งต้องมีการข่าวว่าจะเกิดอะไรตามมาหรือไม่ 

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า วันนี้ตนจะเดินทางลงพื้นที่ทันที โดยจะเดินทางไปที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ก่อนเข้าไปยังพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อดูความเรียบร้อยและการประสานสั่งงาน ว่าสามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้หรือไม่ ซึ่งก่อนมีภารกิจอื่นอีกมาก แต่ก็จะลงไปเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการในพื้นที่ด้วย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยด้วยว่า นายกรัฐมนตรี ได้กำชับและสั่งการให้ปฎิบัติหน้าที่ประสานกับฝ่ายความมั่นคง ดูแลประชาชนในเรื่องของความปลอดภัย กำชับให้เข้มงวดกวดขันในเรื่องของการลงไปดูแลพื้นที่เกิดเหตุ กำชับในเรื่องของการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ที่จะต้องประสานกับฝ่ายปกครอง แม้ว่าการลงทะเบียนจะเกินกำหนดเวลาไปแล้ว แต่ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการประนีประนอมในโครงการ“ตลาดนัดแกหนี้” 

ส่วนด้านการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้กวาดล้างผู้มีอิทธิพลที่ปล่อยเงินกู้ และมีพฤติกรรมทวงหนี้โหดที่ผิดกฎหมาย รวมถึงเรื่องของยาเสพติด แก๊งค์ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดที่มีจุดเด่นในเรื่องของการท่องเที่ยว เรื่องเว็บพนันออนไลน์ บ่อนการพนัน และสถานบริการที่ผิดกฎหมาย 

รวมไปถึงเน้นย้ำให้ข้าราชการตำรวจในเรื่องของความรัก-ความสามัคคี และให้ดูแลสวัสดิการข้าราชการตำรวจ ทั้งเรื่องที่พัก ความเป็นอยู่ด้วย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ในเรื่องของบ่อนการพนันในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 นั้น นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำสั่งการว่าเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาคหนึ่งได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน ตั้งแต่ระดับผู้กำกับลงไป โดยตอนนี้ได้มาปฏิบัติราชการราชการราชการที่ ศปก. และในวันนี้ตนได้สั่งการให้ผู้บังคับการจังหวัดนนทบุรี มาปฎิบัติหน้าที่ในส่วนของ ศปก.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และยังให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นหรือไม่ เพราะตนมองว่าทุกอย่างที่เป็นความผิดผู้บังคับบัญชาต้องเป็นคนรับผิดชอบ ถ้าผลออกมาแล้วมีความเกี่ยวข้องกับใครก็ต้องลงโทษทางวินัย ขอยืนยันว่า ไม่มีนโยบาย หรือให้มีบ่อนการพนันเกิดขึ้นในพื้นที่ใดเลย และในส่วนของเว็บพนันออนไลน์ตนสั่งการให้เห็นผลภายใน 7 วันตามขั้นตอนการตรวจสอบและปิดเว็บการพนัน