วันที่ 19 มิ.ย. 2565 ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีที่ ชนะศักดิ์ อัตถากร ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาพูดพาดพิงกิจกรรม “ครอบครัวเพื่อไทยไปศรีสะเกษ ไล่หนูตีงูเห่า” โดยกล่าวหาการปราศรัยของแกนนำพรรคหลายคนว่าเป็นการปราศรัยใส่ร้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมทั้งจะตรวจสอบเพื่อนำไปดำเนินการอย่างอื่นต่อนั้น สิ่งที่แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พูดบนเวทีคือความจริงทั้งหมดและมีความมุ่งมั่นที่จะนำแนวนโยบาย แนวความคิดใหม่ๆ ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยี ไม่ต้องจมปลักอยู่กับจน หมดหนทางการทำมาหาเลี้ยงชีพ สิ้นหวัง ไร้อนาคต เหมือนอย่างที่ประชาชนต้องเผชิญอยู่ทุกวันนี้
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว การบริหารราชการที่ผิดพลาดของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไร้ความรู้ ความสามารถ ไม่สามารถนำพาประเทศให้มีอนาคตที่ดีกว่านี้ได้ ยืนยันได้จากหลักฐานเชิงประจักษ์ทั้งดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index หรือ CPI) ประจำปี 2564 ไทย 35 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 110 ของโลกจาก 180 ประเทศทั่วโลก การศึกษาของไทยที่รั้งท้ายอาเซียน มีเด็กหลุดจากระบบการศึกษา 1.2 ล้านคน คนไทยกว่า 6 ล้านคนต้องตกงาน และจะมีเด็กจบใหม่อย่างน้อย 1.3 ล้านคน ที่ยังไม่สามารถหางานทำได้
"หนี้สาธารณะที่ทะลุเกือบ 10 ล้านล้านบาท ตัวเลขคนจนที่พุ่งถึง 20 ล้านคนจากบัตรคนจนที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เตรียมจัดหาให้ เท่านี้ยังประกาศถึงความล้มเหลวของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไม่พออีกหรือ" รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การเข้าสู่การเมืองของแพทองธาร เป็นความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง มีแรงผลักดันและแรงบันดาลใจที่อยากวางรากฐานอนาคตที่มีคุณภาพกับคนรุ่นต่อไป ไม่เคยมีความคิดที่จะก้าวเข้าสู่การเพื่อหวังล้างคดีให้ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ที่ทำประโยน์ให้กับคนไทยมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน โครงการโอทอป และอื่นๆ มากมาย
"หากชนะศักดิ์ติดตามสถานการณ์บ้านเมือง ติดตามเรื่องราวของผู้คนบ้าง จะรู้ว่าแท้จริงแล้วแพทองธารไม่ได้หวังเข้าสู่การเมืองตั้งแต่แรก หากแต่เพราะสถานการณ์บ้านเมืองในช่วงที่ผ่านมาทำให้ประเทศย่ำแย่ อนาคตของลูกหลานไม่มี ในที่สุดจึงตัดสินใจเข้าสู่การเมือง ทั้งหมดล้วนเกิดจากความคิดในแง่บวกทั้งสิ้น ไม่ได้มีทัศนคติคิดลบอย่างที่ชนะศักดิ์ทำ" รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว
ตรีชฎากล่าวอีกว่า ชนะศักดิ์ไม่ควรมาโหนกระแสพรรคเพื่อไทยจากกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยไปศรีสะเกษ ไล่หนูตีงู่เห่าที่ประสบความสำเร็จ พรรคเพื่อไทยและครอบครัวเพื่อไทยลงพื้นที่ตามปกติอย่างที่เคยปฏิบัติมาโดยตลอด การที่มีประชาชนมาร่วมงานจำนวนมากก็เกิดจากกระแสความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคเพื่อไทยและเขามุ่งหวังว่าพรรคเพื่อไทยคือพรรคที่พึ่งที่หวังของเขาในยามที่บ้านเมืองสิ้นหวัง เขามั่นใจว่าพรรคเพืิ่อไทยสามารถทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีและสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ จึงทำให้ประชาชนพร้อมใจมาสนับสนุน
ตรีชฎากล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ และประชาชนก็สะท้อนปัญหาคือราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำ แต่ปุ๋ยและยากำจัดวัชพืชราคาแพง ถ้ารัฐบาลดีบริหารเก่ง ประชาชนต้องมีความสุขไม่ทุกข์ใจเหมือนวันนี้
“ชนะศักดิ์จะชอบพรรคการเมืองใดก็เป็นสิทธิ์ แต่ไม่ควรไปปรามาสดูหมิ่นหรือด้อยค่าพรรคเพื่อไทยที่ลงพื้นที่ไปพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน ความจริงถ้าพรรคพลังประชารัฐอยากทราบความนิยมที่แท้จริงจากประชาชนก็สามารถจัดงานแบบพรรคเพื่อไทยได้ จะได้ทราบว่าความเป็นจริงประชาชนรู้สึกเช่นไร และอยากให้ชนะศักดิ์เอาเวลาที่เหลืออยู่หาวิธีช่วยพรรคพลังประชารัฐหาคะแนนช่วยพล.อ.ประยุทธ์และพรรคก่อน แทนการเอาเวลามานั่งมโนเกินความจริง จุดเริ่มต้นของการอยู่ดีกินดีของประชาชนคือ ความเป็นประชาธิปไตย ยุคนายกฯ ทักษิณและนายกฯ ยิ่งลักษณ์ คือยุคที่ประชาชนมีทอง มีบ้าน มีรถ ยุคพล.อ.ประยุทธ์เป็นยุคที่ประชาชนเผชิญกับความจนไร้ทรัพย์สิน ต้องยอมรับความจริงเหล่านี้” ตรีชฎากล่าว