ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่เว็บไซต์รัฐบาลไทย www.thaigov.go.th เผยแพร่ข่าว ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่าเศรษฐกิจภายใต้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2565 ว่า การที่ ทิพานันแสดงความมั่นใจบอกว่าเศรษฐกิจดีนั้น คงจะมีแต่ ทิพานันกับรัฐบาลเท่านั้นที่คิดเช่นนี้ เพราะแม้แต่ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ที่เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยังบอกว่า พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่สำเร็จ รับมือโควิดไม่สำเร็จ จนมีการรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 20,000 ราย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่คัดค้านกับความเห็นดังกล่าวของ มิ่งขวัญ ขณะนั่งแถลงข่าวอยู่ด้วยกัน

ดังนั้นระหว่างมิ่งขวัญ ซึ่งเป็นทีมเศรษฐกิจคนใหม่ของพรรคพลังประชารัฐ กับทิพานัน ประชาชนคงเชื่อมิ่งขวัญมากกว่า พี่น้องประชาชนทั้งประเทศต่างรู้ดีว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังตกต่ำเพียงใด ภายใต้การบริหารของรัฐบาลที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ ยืนยันได้จากหนี้สาธารณะพุ่งชนเพดานที่ 10 ล้านล้านบาท คนจนพุ่งทะลุ 20 ล้านคน มากที่สุดในประวัติศาสตร์ หนี้ครัวเรือนพุ่งทะลุเกือบชนเพดาน ความเหลื่อมล้ำในไทยสูงสุด เด็กและเยาวชนหลุดจากระบบการศึกษา และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย ดังนัั้น ทิพานันต้องเดินออกมาจากอุปทานหมู่ที่สะกดจิตตัวเองว่าเศรษฐกิจดี เพียงเพราะกังวลว่าตนเองซึ่งอยู่ในรัฐบาลจะเสียแต้มเท่านั้น

นอกจากนี้ในเว็บไซต์ www.thaigov.go.th ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาล ที่ใช้สื่อสารต่อประชาชนอย่างเป็นทางการ ยังเผยแพร่ข้อความว่า ทิพานัน ระบุว่า พรรคเพื่อไทยจะซ้ำรอยอดีต ‘คิดใหญ่ โกงเป็น’ นั้น ข้อความที่ปรากฏเป็นการเจตนาจงใจใส่ร้าย ใส่ความให้วิญญูชนทั่วไปให้เข้าใจผิดต่อพรรคเพื่อไทย ทั้งที่ข้อเท็จจริงคือ ดัชนีชี้วัดคะแนนปลอดคอร์รัปชันในประเทศไทยที่จัดอันดับโดยองค์กร Transparency International พบว่า ในปี 2564 ภายใต้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ อยู่ที่ 35 คะแนน อันดับที่ 110 ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่รัฐบาลภายใต้การนำของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อันดับการประเมินจากองค์กรเดียวกันพบว่า ดัชนีชี้วัดคะแนนปลอดคอร์รัปชัน อยู่ในอันดับที่ 59 ซึ่งดีกว่ารัฐบาลนี้เท่าตัว แทนที่ ทิพานัน เป็นรองโฆษกรัฐบาล ควรจะใช้สติปัญญาสื่อสารทางการเมืองด้วยข้อเท็จจริง กลับเลือกใช้วิธีการชกใต้เข็มขัด ดึงการเมืองกลับเข้าสู่ยุคน้ำเน่าด้วยการใช้วาทกรรมตอบโต้ไปมา หลีกเลี่ยงที่จะตอบโต้ด้วยนโยบาย วนเวียนอยู่กับวาทกรรมใส่ร้าย แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เรื่องจะพาพ่อกลับบ้าน ซึ่งเป็นความเท็จ การชนะเลือกตั้งแบบแลนสไลด์ คือชัยชนะที่จะนำพาพี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หลุดพ้นจากความยากจน ทุกนโยบายผ่านการศึกษาวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนจากผู้บริหารพรรคและผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ การประกาศนโยบายทางพรรคเพื่อไทยรับผิดชอบ ซึ่งจะต้องทำให้สำเร็จ ก่อนที่ทิพานันจะพูดให้ข่าวน่าจะย้อนมามององคาพยพของตัวเองเสียก่อน ไม่เช่นนั้นจะถูกคนเขาย้อนสวนกลับมาได้

ตรีชฏา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยยินดี หากสังคมจะวิพากษ์วิจารณ์แนวนโยบายอย่างสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ เพื่อประชาชนเราทนได้ แต่สิ่งที่นางสาวทิพานันกล่าวหาในครั้งนี้ เป็นการเจตนาใส่ร้าย พูดโกหก หมิ่นประมาทพรรคเพื่อไทย นำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่สำคัญใช้สื่อรัฐเป็นเครื่องมือกระทำความผิด ถือว่าครบองค์ประกอบแห่งความผิด ทางฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยจึงจะพิจารณาดำเนินคดีเอาผิดกับ ทิพานัน เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี และเพื่อไม่ให้ ทิพานันกระทำการย่ามใจไปมากกว่านี้ และเพื่อเป็นการปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของพรรคเพื่อไทย