ไม่พบผลการค้นหา
"ปิยบุตร" ระบุ บุคคลที่สมควรถูกปฏิรูปมากที่สุดคือ พล.อ.ประยุทธ์ ขณะที่ "สุทิน คลังแสง" ยืนยัน การปฏิรูปเป็นข้ออ้างของการล้มรัฐบาลเท่านั้น

นายสุทิน คลังแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคาม พรรคเพื่อไทย มองว่า รายงานแผนปฏิรูปประเทศไม่สะท้อนความเป็นจริง แผนที่กำหนดขึ้นไม่ใช่เรื่องการปฏิรูปแต่เป็นงานประจำของหน่วยงานรัฐ จึงขอชื่นชมเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ช่วยเขียนรายงานให้เป็นรูปเป็นร่าง "ปั้นน้ำให้เป็นตัว" มองว่าการปฏิรูปครั้งนี้ไม่สำเร็จ ประเทศไทยยังไม่มีปัจจัยเพียงพอที่จะนำไปสู่การปฏิรูป มีเพียงคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้นที่ออกมาเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูป และข้อเรียกร้องในการปฏิรูปก็เป็นเพียงข้ออ้างในการล้มรัฐบาลเท่านั้น

นายสุทิน ระบุว่า โอกาสที่การปฏิรูปจะสำเร็จ ผู้นำต้องมีความเข้มแข็ง คนในองค์กรมีเจตนารมณ์ที่จะเห็นการปฏิรูป และบริบททางสังคมต้องเอื้อให้เกิดการปฏิรูป แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้น และกลายเป็นความล้มเหลวตั้งแต่ต้น พร้อมย้ำว่าประเทศยังมีความเหลื่อมล้ำมากขึ้นเรื่อยๆ ทรัพยากรของประเทศอยู่กับคนเพียงกลุ่มเดียว การปฏิรูปด้านเศรษฐกิจในรายงานแผนปฏิรูป ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงทางสังคม ที่ต้องแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทางโดยเฉพาะการกระจายทรัพยากรจากกลุ่มทุนใหญ่

ขณะที่การปฏิรูปด้านการเมืองก็เกิดความล้มเหลว โครงสร้างทางการเมืองถูกทำลายย่อยยับ วัฒนธรรมทางการเมืองที่เคยปฏิบัติมาโดยตลอด ก็ไม่เป็นไปตามแบบแผน

นายสุทิน กล่าวว่า ปฏิรูปการเมืองนั้นสุดอัปลักษณ์ สูตรคิดส.ส.โลกตะลึง แย่งงูเห่ากันตลอด ส่วนสื่อต่างประเทศยังคงระบุเป็นประชาธิปไตยจอมปลอม โครงสร้างและวัฒนธรรมก็ถูกทำลาย ส.ว.เป็นลูกไม่มีพ่อ ที่มายังไม่รู้มาจากไหน ทำกันเละเทะมาก ทำยังไงก็ไม่บอก หลักเกณฑ์การสรรหาก็ไม่มี กรณีหุ้นสื่อ 32 คนไม่ต้องยุติปฏิบัติหน้าที่ แต่ก่อนนี้ 1 คนต้องหยุด ส่วนการตั้งครม.ก็จะนำคนมีมลทิน นำคนอนุมัติกู้เงินธนาคารกรุงไทย 9 หมื่นล้านบาทอย่าง นายอุตตม สาวนายน มาเป็นรัฐมนตรี

"เมื่อท่านไม่รับญัตตินี้ของผม พรุ่งนี้ (28 มิ.ย.) ผมต้องแจ้งความดำเนินคดี มาตรา 157 ครับ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ วันก่อนประธานวุฒิสภาบอกว่า ส.ส.ตรวจสอบ ส.ว.ไม่ได้ ผมไม่ได้ตรวจสอบ ส.ว. ผมตรวจสอบ คสช. วันนี้ออกมาบอกตรวจสอบ คสช.ไม่ได้ ท่านไม่สงสารชาวบ้านบ้างเหรอ" นายสุทิน ระบุ

ประยุทธ์ สมควรถูกปฏิรูป

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายว่า มีอยู่ 2 องค์กรที่ไม่ได้อยู่ในแผนการปฏิรูปของรัฐบาล คสช. คือ 1."กองทัพไทย" ซึ่งทำหน้าที่ก่อการรัฐประหารอยู่บ่อยครั้ง จึงมีความจำเป็นที่ต้องพิจารณาว่าจะปฏิรูปกองทัพให้สอดคล้องกับประชาธิปไตย ให้รัฐบาลจากการเลือกตั้งอยู่เหนือกองทัพได้อย่างไร นอกจากนี้ยังต้องดำเนินการให้กองทัพนั้นเคารพสิทธิมนุษยชน ปฏิบัติหน้าที่มิใช่ทำหน้าที่รัฐประหารทุก 4-6 ปี 

2."ศาล" ที่ถูกตั้งคำถามมาตลอด 13 ปีที่ผ่านมาถึงมาตรฐานในการตัดสินคดี ซึ่งปรากฎว่าไม่มีการปฏิรูปเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นบุคคลที่ถูกควรปฏิรูปมากที่สุด

เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ย้ำว่า การปฏิรูปที่เกิดขึ้นคือการปฏิรูปที่ไม่เห็นหัวประชาชน วนเวียนอยู่กับคนเพียงไม่กี่คน ส่งผลให้เกิดซูเปอร์รัฐบาล ระบบราชการอยู่เหนือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เกิดรัฐซ้อนรัฐ นอกจากนี้ยังส่งผลให้ ส.ว.มีอำนาจอยู่เหนือ ส.ส. หรือเรียกว่า ส.ว.กำลังขี่คอ ส.ส. จึงขอเรียกร้องและเชิญชวนให้ ส.ส. ในสภาแห่งนี้ซึ่งเป็นองค์กรผู้ใช้อำนาจรัฐองค์กรเดียวที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะใช้อำนาจแทนประชาชน ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าสามารถปฏิรูปกันเองได้ในระบบปกติ ไม่จำเป็นต้องปฏิรูปผ่านระบบพิเศษ และจะต้องไม่เปิดประตูเชิญชวนให้รัฐประหารเข้ามาเป็นผู้นำในการปฏิรูป