วันที่ 9 พ.ค. ที่โรงเรียนในเมือง อำเภอสทิ้งพระ จ.สงขลา พรรคพลังประชารัฐเปิดเวทีปราศรัยครั้งสุดท้าย สำหรับเวทีภูมิภาค นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค และผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ทั้ง 9 เขต
พล.อ.ประวิตร ปราศรัยบนเวทีปราศรัยว่า ผมมาจังหวัดสงขลาเพื่อยืนยันผู้สมัครทั้ง 9 เขต จะรับใช้ประชาชนชาวสงขลา ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการดูแลชาวสงขลาให้มีความอยู่ดีกินดี มีความเจริญรุ่งเรือง เอาไหมครับ “ก้าวข้ามความขัดแย้งรู้ไหมครับคืออะไร ไม่รู้ ผมจะบอกให้ว่ารัฐบาลที่แล้วผมทำเรื่องก้าวข้ามความขัดแย้ง ทำให้อยู่จนกระทั่งครบ 4 ปีเลยครับ เพราะฉะนั้นผมจะเป็นผู้รับฟังข้อขัดแย้งต่างๆ จากประชาชน ด้วยความยินดี ผมสามารถแก้ปัญหาเรื่องความขัดแย้งทั้งหมด ขอให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37”
“ผมอยากให้คนไทยรักและสามัคคีกัน มีความเป็นหนึ่งเดียว นำความเจริญมาสู่ประเทศชาติและจังหวัดสงขลา ทุกคนพอใจไหมครับ ให้ประชาชนอยู่ดีกินดีและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ถ้าต้องการ ต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐเบอร์ และขอให้เลือกผู้สมัครทั้ง 9 เขต เพื่อที่จะสนับสนุนผมเป็นนายกฯ คนที่ 30” พล.อ.ประวิตร กล่าว
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ กล่าวว่า ตอนนี้มีกระแสโจมตีจากพรรคการเมืองบางพรรค ว่าผมไม่ชอบคนใต้ ซึ่งผมขอยืนยันว่า ถึงแม้ว่าผมจะเกิดที่จังหวัดพะเยา ภาคเหนือของประเทศไทย แต่ผมก็ใช้ชีวิตเติบโตมาในจังหวัดนราธิวาส อำเภอตากใบ เพราะฉะนั้นหัวใจของผมคือคนใต้ ผมรักคนใต้ และผมรักใครรักจริง เหมือนคนใต้ทุกคน ซึ่งน้องชายของผม ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว หรือน้องกฤต ผู้สมัครคนนี้ก็ถูกกลั่นแกล้งสารพัด แต่ผมรักน้องชายคนนี้ เพราะรู้ดีว่าเขามีใจที่รัก และอยากทำเพื่อชาวสงขลาอย่างแท้จริง จึงขอโอกาสให้ได้เข้ามารับใช้ประชาชนด้วย และทุกนโยบายของพรรค พปชร.ล้วนแต่ต้องการเข้ามาช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระให้กับพี่น้องประชาชน อย่างเช่น บัตรประชารัฐ ที่ พล.อ.ประวิตร ก็ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า เราจะต้องเข้ามาให้คนไทยทั้งประเทศหลุดพ้นจากความยากจน