วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)พิจารณาความเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)ว่า เห็นด้วยกับกกต. ที่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งกกต. สามารถสงสัยและส่งไปได้ และเชื่อว่าเรื่องนี้ จะมีการพิจารณาได้เร็ว ซึ่งจะได้เป็นบรรทัดฐาน ถือว่าดี ความจริงเรื่องนี้จะว่าชัดมันก็ชัดอยู่แล้ว แต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เพราะไปเกี่ยวพันกับเรื่องของการที่จะเลื่อนคนขึ้นมาแทนในการเลือกตั้งซ่อม ถ้าหากจะเลื่อนเลยแล้วมีเรื่องขึ้นมาในภายหลังมันก็จะยุ่ง กกต.มีอำนาจอยู่แล้วเรื่องจะได้จบไป น่าจะหมดปัญหาที่สงสัยกัน ซึ่งที่ผ่านมาเราก็มีตัวอย่างจากหลายๆเคส
ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงขณะนี้มีการส่งรายชื่อรัฐมนตรีใหม่มาให้ตรวจสอบหรือยัง วิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่เข้าใจว่ายังไม่มีใครส่งมา
ส่วนขั้นตอนการตรวจสอบจะต้องใช้เวลานานหรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า หากน้อยคนก็ไม่นาน แต่ถ้ามากคนก็จะนานหน่อย และถ้าหากเป็นรัฐมนตรีที่เคยตรวจสอบแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหา มันไม่เหมือนกับการตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ทั้งชุด ที่อาจจะวุ่นวายหน่อย เนื่องจากจะต้องดูเรื่องของสัมปทาน หุ้นสื่อ ซึ่งหากคนที่เข้ามาใหม่เป็น ส.ส. อยู่แล้วปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไป
ส่วนกรณีที่ผลของศาลรัฐธรรมนูญอาจจะมีออกมาก่อนการพิจารณาวาระ 2 วาระ 3 แล้วเสร็จ จะมีปัญหาได้หรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า ก็อยู่ที่ว่าผลนั้นออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ประธานสภาก็รออยู่ ทางสำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรีก็ได้มีหนังสือสอบถามไปนานแล้วว่า เมื่อรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 2 จะเข้าวาระ 3 ซึ่งต้องทิ้งไว้ อย่างน้อย 15 วัน ทางสภาคิดว่า จะเปิดสภาสมัยประชุมวิสามัญได้เมื่อไหร่ จะได้มาขอออกพระราชกฤษฎีกา เพราะรัฐบาลจะต้องเป็นผู้ดำเนินการเพื่อทูลเกล้าถวายฯ และคิดว่าจะเปิดกี่วัน เพราะเราไม่รู้ว่าเปิดแล้วจะมีภารกิจทำอะไรบ้าง เพราะเท่าที่รู้ก็คือเปิดเพื่อโหวตรัฐธรรมนูญวาระ 3 แต่ได้ยินพูดๆกันว่า ไม่พอ จำเป็นต้องให้ความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ และ มีบางคนก็บอกว่าไหนๆ ก็เปิดแล้ว ประมวลกฎหมายยาเสพติดก็เสร็จแล้ว และต้องเข้าที่ประชุมร่วมด้วย
ดังนั้นเมื่อการเปิดครั้งนี้เป็นการเปิดเพื่อประชุมร่วมอยู่แล้วก็ควรจะนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาด้วยเลย โดยอาจจะพิจารณาทั้งสามเรื่อง 3 วาระไปเลย ซึ่งได้ถามไปแล้วว่ามีหรือไม่ จริงหรือไม่ จะได้รู้ว่าเปิดแล้วจะต้องปิดเร็วหรือไม่ เพราะเวลาทูลเกล้าฯ จะต้องมีทั้งฉบับเปิดหนึ่งฉบับ และฉบับปิดอีกหนึ่งฉบับ แต่ทางสภายังไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าวมา คงอยากจะรอฟังคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลการพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญจะเกี่ยวข้องกับการพิจารณาวาระ 3 หรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า "ปกติจะไม่เกี่ยวกัน แต่อาจจะเกี่ยวกันได้ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งอะไรที่เกี่ยวข้องกัน เช่น ถ้าศาลสั่งว่าทำได้ก็ไม่มีปัญหา หรือถ้าศาลสั่งว่าทำไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องประชุมในวาระ 3 แล้ว"
เมื่อถามย้ำว่าดังนั้นที่ประชุมแก้ไขรัฐธรรมนูญกันมาทั้งหมดก็เป็นศูนย์ใช่หรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า "ใช่ สิ่งที่ทำไปแล้วก็ถือว่าใช้ไม่ได้ แต่ความจริงมันก็ใช้ได้เพียงแต่ว่ามันจะทำต่อไปไม่ได้"
เมื่อถามว่าแสดงว่าเท่ากับไม่ได้มีการแก้ไขใดๆเลย ใช่หรือไม่ วิษณุ พยักหน้า แต่ไม่ได้กล่าวอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางรัฐบาลยังคงมีแนวทางที่อยากให้แก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ใช่หรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า ถ้าออกมาในรูปนั้นก็สามารถแก้ไขเป็นรายมาตราได้ ปัญหาต่อไปก็คือจะแก้มาตราไหน เมื่อถามว่า ยืนยันว่าหมวด 1 หมวด 2 ไม่แตะต้องใช่หรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า วันนี้ยังจะต้องยืนยันอีกหรือ
วิษณุ กล่าวถึงกรณีที่ มาตรการเยียวยาให้กับข้าราชการ ว่า ในคณะรัฐมนตรีไม่เคยคุยกันเรื่องดังกล่าว ต้องไปถามกระทรวงการคลัง และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เนื่องจากจะต้องใช้งบประมาณ ที่ผ่านมาเป็นเพียงดำริของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้มอบนโยบายว่าให้ไปช่วยดูให้ด้วย ซึ่งเวลาดำเนินการกระทรวงการคลัง กับ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานข้าราชการพลเรือน ต้องไปร่วมกันพิจารณา ในรายละเอียด ซึ่งขณะนี้ต้องไปดูที่จำนวนคนและจำนวนงบประมาณ รวมถึงวิธีการ ส่วนจะออกมาเป็น ข้าราชการชนะ หรือไม่ ก็แล้วแต่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :