พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวในแวดวงการเมืองว่าจะมีการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปเป็นวันที่ 28 เม.ย.2562 ว่า ต้องไปถามนักการเมืองเพราะนักการเมืองเป็นคนคิด แต่ตนไม่ได้คิด ในส่วนของรัฐบาลยังยืนยันว่าเป็นวันที่ 24 ก.พ. 2562 ส่วนจะมีปัจจัยอื่นที่ไม่สามารรถควบคุมได้และทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปหรือไม่นั้น ตนไม่รู้ และสถานการณ์ที่จะก่อให้เกิดความไม่เรียบร้อยในช่วงนี้ก็มีเพียงเรื่องการเมืองเท่านั้น นอกนั้นก็ไม่มีเรื่องอะไร

ส่วนจะสามารถจัดการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. ได้อย่างราบรื่นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะราบรื่นหรือไม่ สื่อถามแล้วถามอีก ดูแล้วไม่มีอะไร มีแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่อยากเลือกตั้ง

ทั้งนี้การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นแน่นอนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ประชาชนอยากเลือกตั้งหรือไม่ เพราะไม่มีเหตุอะไรจะให้เลื่อนการเลือกตั้ง สื่อมวลชนถามอย่างนี้ทุกวัน รัฐบาลไม่เห็นทำอะไรเลย รัฐบาลวางเฉย มีแต่คนคิด 

ส่วนตอนนี้พรรคการเมืองยังไม่สามารถหาเสียงได้ใช่หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่มีการปลดล็อก ส่วนกรณีของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่ลงพื้นที่รับสมัครสมาชิกพรรคที่ตลาดปฐวิกรณ์ วานนี้ (2 ต.ค.) ต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นผู้ดำเนินการ และต้องไปถาม กกต. เพราะเป็นผู้ดูแลพรรคการเมืองอยู่ ซึ่งถามตนไม่ได้ หาก กกต.บอกไม่ได้คือจบ หากบอกว่าได้คือได้

ส่วนเป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ที่หลายพรรคเริ่มมีการโจมตีกันด่าสาดเสียเทเสียใส่กัน พลเอกประวิตร กล่าวว่า ก็มีการโจมตีกันแบบนี้ทุกทีที่มีการเลือกตั้ง ซึ่งจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ ก็ว่ากันไป

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ยังไม่มีข้อมูลหรือปัจจัยที่จะเลื่อนการเลือกตั้ง ส่วนที่เป็นไปได้หรือไม่ว่านักการเมืองกังวลว่าจะไม่มีการเลือกตั้งนั้น เป็นเรื่องนักการเมืองกังวลกันเอง จึงต้องไปถามคนเหล่านั้นด้วยเหตุผล 

ส่วนกรณีที่หลายพรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองโดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมทีมงานพรรค ลงพื้นที่เชิญชวนประชาชนสมัครเป็นสมาชิกพรรค ที่ตลาดปัฐวิกรณ์ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นหาเสียงนั้น สามารถทำได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่วินิจฉัยการกระทำของพรรคใด หรือนักการเมืองคนใดว่าสิ่งใดทำได้ไม่ได้หรือถูกผิด เพราะถึงพูดไปก็ไม่เชื่อและกระทำอยู่ดี ดังนั้นใครทำก็รับผิดชอบเอง 

ส่วนจะมีคนไปร้องเรียนคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. หรือไม่ และกกต.จะทำอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ เบื้องต้นเป็นหน้าที่ของ กกต. แต่เป็นสิ่งที่นักการเมืองต้องระมัดระวัง เพราะหลายอย่างที่เหมือนจะทำไม่ได้ ความจริงอาจจะทำได้ ถ้าทำเป็น แต่หลายอย่างที่คิดว่าทำได้ แต่ความจริงอาจทำไม่ได้ จึงต้องไปดูเองว่าเรื่องใดเป็นหลักเรื่องข้อยกเว้น ซึ่งกฎหมายไม่ได้เขียนเรื่องนี้ให้ยึดยาว และไม่ได้ระบุด้วยว่าห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง เพียงบอกว่าห้ามทำกิจกรรมเกินกว่า 5 คน ซึ่งใครจะแปลว่าอย่างไรต้องแปลเอง และอย่ามาเถียงกันบนหน้าหนังสือพิมพ์ เช่นบางคนอ่านกฎหมายมาตราเดียวกัน ก็ตัวใครตัวมัน