หลายฝ่ายกังวลว่าอาจเกิดโรคระบาดขึ้นในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมและโคลนถล่ม ทางตะวันตกของญี่ปุ่น เนื่องจากความชื้นสูงและอุณหภูมิสูงขึ้นถึง 30 องศาเซลเซียส การใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัยในที่พักพิงชั่วคราวก็ค่อนข้างยากลำบาก เนื่องจากต้องปูเสื่อนอนตามพื้นสนามกีฬาในร่มของโรงเรียน โดยไม่มีเครื่องปรับอากาศ
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ครอบครัวผู้ประสบภัยในหลายพื้นที่เกือบ 240,000 หลังคาเรือนยังขาดแคลนน้ำสะอาด แม้รัฐบาลจะนำรถบรรทุกขนน้ำเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยแล้วหลายคัน นอกจากจะทำให้ผู้ประสบภัยขาดน้ำในช่วงอากาศร้อน ยังทำให้ผู้ประสบภัยไม่สามารถล้างและซักของใช้ต่างๆ ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคแพร่ระบาดได้ง่าย ขณะเดียวกันยังส่งผลกระทบกับโรงพยาบาลหลายแห่ง ทำให้ต้องเลื่อนการผ่าตัดและต้องย้ายผู้ป่วยบางส่วนออกจากพื้นที่
ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมและดินถล่มทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 204 รายแล้ว และสูญหายอีกกว่า 28 คน โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมากกว่า 70,000 คนเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพังและโคลน แต่อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้โคลนเริ่มจับตัวแข็งขึ้น และภารกิจกู้ภัยเป็นไปอย่างยากลำบากขึ้น
ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาเมื่อสัปดาห์ก่อนทำให้เกิดน้ำท่วม โคลนถล่ม และน้ำกัดเซาะตลิ่ง ถือเป็นภัยธรรมชาติครั้งรุนแรงที่สุดใน 36 ปีของญี่ปุ่น มีประชาชนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตัวเองมากกว่า 2 ล้านคนใน 29 จังหวัด ขณะที่ประชาชนอีกหลายหมื่นคนติดอยู่ในบ้านที่ไม่มีทั้งน้ำและไฟฟ้า
ที่มา: The Telegraph
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: