ไม่พบผลการค้นหา
สหรัฐฯ เสนอแผนซ่อมประตูห้อง รมว.มหาดไทย คิดเป็นเงิน 4.5 ล้านบาท ถูกวิจารณ์ 'ไม่จำเป็น' แต่โฆษกกระทรวงยืนยัน ประตูชำรุด น้ำฝนรั่ว และต้องยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย

สื่อสหรัฐฯ เสนอข่าวการวางแผนซ่อมแซมประตูสำนักงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) พร้อมตั้งคำถามว่าค่าติดตั้งประตู 3 จุดคิดเป็นเงินเกือบ 139,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4.5 ล้านบาท เป็นการใช้งบประมาณที่ฟุ่มเฟือย ทำให้โฆษกกระทรวงฯ แถลงชี้แจงว่า จำเป็นต้องเสนอแผนดังกล่าว เพราะประตูชำรุด ทำให้น้ำรั่วทุกครั้งที่ฝนตก ประกอบกับห้องทำงานของนายไรอัน ซิงก์ รมว.มหาดไทย อยู่บนชั้น 6 ของอาคาร ต้องปรับปรุงระบบล็อกเสียใหม่ เพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างอิงแถลงการณ์ของกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า นายซิงก์ไม่ทราบเรื่องงบประมาณในการซ่อมแซมประตูดังกล่าว เพราะเป็นหน้าที่ของฝ่ายจัดซื้อจัดหา แต่เมื่อทราบว่าแผนบูรณะสำนักงานถูกวิพากษ์วิจารณ์ก็มีคำสั่งให้ทบทวนแผนดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยย้ำว่าให้ปรับลดสิ่งที่ไม่จำเป็นลง แต่เจ้าหน้าที่รับผิดชอบยืนยันว่าแผนดังกล่าวมีความเหมาะสมแล้ว เพราะประตูที่จะติดตั้งมีทั้งหมด 3 ชุด และเป็นประตูระบบล็อกนิรภัย ซึ่งรวมค่าทดสอบและติดตั้งไปด้วยแล้ว

ซีเอ็นเอ็นระบุว่าการตรวจสอบการใช้งบประมาณในกระทรวงมหาดไทย เกิดขึ้นหลังจากที่นายซิงก์ถูกสมาชิกพรรคฝ่ายค้านเดโมแครตวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเดินทางไปร่วมงานรื่นเริงที่จัดโดยสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติเมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งอาจเข้าข่ายประพฤติผิดวินัย ทั้งยังมีรายงานด้วยว่าเขาเดินทางไปขี่ม้ากับนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยใช้เครื่องบินส่วนตัว แต่เบิกงบรัฐบาล  

ขณะที่สำนักข่าวเอพีรายงานว่ากรณีของนายซิงก์ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัฐมนตรีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี สังกัดพรรครีพับลิกัน ตกเป็นเป้าโจมตีจากพรรคฝ่ายค้านและประชาชน ซึ่งไม่พอใจการปฏิบัติตัวอย่างหรูหราและเบิกงบประมาณรัฐไปกับเรื่องส่วนตัว 

โดยเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา นายเบน คาร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่พักอาศัยและการพัฒนาเมือง ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังมีข่าวว่าทางกระทรวงสั่งซื้อชุดเครื่องครัวประจำตำแหน่ง รมว.เสียใหม่ เป็นเงินกว่า 31,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 1 ล้านบาท แต่ภายหลังได้มีคำสั่งยกเลิกการจัดซื้อไป หลังจากเจ้าหน้าที่รายหนึ่งให้ข่าวกับสื่อดัวยตัวเอง และโฆษกของกระทรวงได้ออกมาแก้ต่าง โดยระบุว่านายคาร์สันไม่ได้เป็นผู้ยื่นข้อเสนอดังกล่าว และเจ้าหน้าที่คนเดิมที่เปิดเผยข่าวให้ข้อมูลว่า เป็นคำสั่งของภรรยานายคาร์สัน

นอกจากนี้ นายสก็อต พรูตต์ ผู้อำนวยการสำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อม เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์หลังจากเขามีคำสั่งให้ติดตั้งผนังเก็บเสียงและระบบประตูนิรภัยในห้องทำงานใหม่ เพื่อป้องกันการดักฟัง และนายทอม ไพรซ์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เคยถูกกดดันให้ลาออกเพราะถูกสื่อเปิดโปงว่าเขาเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ทเพื่อไปทำธุระส่วนตัวหลายครั้ง แต่กลับเบิกงบเดินทางจากรัฐบาล

ส่วนนายทรัมป์เองก็มีข้อเสนอให้กองทัพสหรัฐฯ จัดการสวนสนามโดยไม่มีวาระสำคัญใดๆ ทำให้ถูกมองว่าเป็นเรื่องฟุ่มเฟือย และทำให้ประเทศมีภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสม โดยนายจิม แมคกอเวิร์น ส.ส.พรรคเดโมแครต เคยทวีตข้อความโจมตีว่าเป็นการใช้เงินสิ้นเปลืองอย่างไร้สาระที่สุด และทรัมป์กำลังทำตัวเหมือนเผด็จการมากกว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ 

อ่านเพิ่มเติม: