ไม่พบผลการค้นหา
'อภิสิทธิ์' ยอมรับคำสั่ง หัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 กระทบต่อสมาชิกพรรค 3 ล้านคนที่ต้องยืนยันสมาชิกพรรคใน 30วัน สับใช้ม.44 ไม่เข้าใจโรดแมปตัวเอง ยังไม่ฟันธงยื่นศาล รธน.ตีความ บอกให้รอหลังปีใหม่

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์จะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ซึ่งใช้อำนาจมาตรา 44 ให้ขยายเวลาพรรคการเมืองในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองทางด้านธุรการว่า การยื่นคำร้องต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนก่อน ถ้าเข้าเงื่อนไขก็สามารถยื่นคำร้องได้ แต่ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายกำลังดูข้อกฎหมายอยู่ คาดว่าภายหลังปีใหม่นี้จะมีความชัดเจน โดยฝ่ายกฎหมายจะดูผลถึงผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพหรือไม่ แต่ถ้าไม่มีผลกระทบก็จะไม่ยื่นคำร้อง

ส่วนคำสั่งดังกล่าวจะมีผลให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ ยืนยันพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา และปฏิบัติตามกฎหมายเสมอ แต่ถ้ามีการใช้อำนาจรัฐเข้ามาเอื้อประโยชน์ในทางการเมืองก็จะไม่สามารถคาดหวังอะไรกับการปฏิรูปได้ แต่ถ้าเกิดมีการใช้อำนาจรัฐที่เบ็ดเสร็จพิเศษไม่สามารถตรวจสอบถ่วงดุลได้จะทำให้ประเทศเสียหาย ดังนั้น ผู้ใช้อำนาจต้องรับผิดชอบ อีกทั้งการไม่ปลดล็อกพรรคการเมืองจะทำให้เป็นปัญหาต่อพรรคการเมืองใหม่ แต่ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคประชาธิปไตย

"พรรคประชาธิปัตย์ไม่กังวล 70 ปีสู้มาทุกสถานการณ์ เสียเปรียบในหลายรูปแบบมาแล้ว เราไม่ได้จะต้องไปโวยวายหรือร้องขอใคร แต่ที่เราพูดเพื่อรักษาหลักการของบ้านเมืองให้อยู่บนหลักความถูกต้อง ถ้ามีอะไรที่เสียเปรียบในหลักการที่ถูกต้องพรรคประชาธิปัตย์ก็ยินดี แต่ถ้าไม่เป็นไปตามธรรมาภิบาลก็ต้องคัดค้าน" 

เมื่อถามถึงการให้สมาชิกพรรคการเมืองเดิมต้องยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคใน 30วันจะเป็นอุปสรรคต่อพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า โดยสามัญสำนึกทุกคนก็ทราบดี สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ 3 ล้านคน ภายใน30 วันต้องทำหนังสือ ชำระเงิน ห้ามทำกิจกรรม เป็นไปได้หรือไม่ มันแทบไม่ต้องออกความเห็น ยอมรับเรื่องนี้กระทบต่อพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน

"กระทบพรรค แต่ไม่เป็นปัญหาได้เปรียบ เสียเปรียบการเลือกตั้ง แต่เสียดายความผูกพันที่ประชาชนได้สมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตลอดเวลา 70 ปี เขาสมัครแทบไม่ได้สิทธิอะไรเลยนอกจากการมีส่วนร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะสมัครโดยความสมัครใจมีลายเซ็นต์และรูปของเขาแต่ต้องมาถูกระงับด้วยกฎหมายที่เพิ่มภาระเชิงธุรการแบบนี้" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ

นายอภิสิทธิ์ ย้ำว่า การใช้คำสั่งดังกล่าวที่อาจเป็นการเซ็ตซีโร่สมาชิกพรรค ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะใครจะไปอยู่พรรคการเมืองใดก็สามารถลาออกได้ ถือเป็นเอกสิทธิ์อยู่แล้ว อีกทั้งไม่ได้สนใจว่าจะเป็นทฤษฎีสมคบคิดให้มีการสนับสนุนพรรคทหารหรือไม่ แต่ส่วนตัวสนใจว่ากฎหมายที่ออกมาต้องอยู่บนหลักนิติธรรม แต่ถ้าสมคบกันแล้วเป็นเรื่องดีก็ไม่ว่า

เมื่อถามว่า ถ้าก่อนเลือกตั้งมีการใช้อำนาจรัฐในการเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ประเทศชาติจะเสียหาย ติดหล่มอยู่กับประชาธิปไตยที่เดินหน้าไม่ได้ ประเทศวนเวียนปัญหาการเมืองตลอดเพราะไม่ได้ยึดธรรมาภิบาล ส่วนการใช้มาตรา 44 ถ้าใช้แบบมีเหตุผลมีผลไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญก็สามารถทำได้ แต่คนใช้อำนาจแบบนี้ต้องตระหนัก เพราะเป็นอำนาจที่ปราศจากการตรวจสอบ

ส่วนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ที่กำหนดให้กลุ่มการเมือง พรรคการเมืองอาจหารือกับประธาน สนช. หลังพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อปลดล็อกประกาศหรือคำสั่ง คสช.ที่กระทบต่อพรรคการเมืองนั้น ส่วนตัวมองว่าคำสั่งฉบับนี้ไม่เข้าใจโรดแมปตัวเอง ทั้งนี้ 1ในแม่น้ำ5สายได้คิดรอบคอบแล้ว แต่คำสั่งนี้ออกมาก็ให้ไปทำพร้อมกับที่กฎหมายเลือกตั้งได้ประกาศใช้ ซึ่งเท่ากับว่าการเลือกตั้ง 150วันต้องมาทำซ้อนกัน

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog