วันที่ 22 พ.ย. ที่อาคารรัฐสภา วุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี อดีตสมาชิกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการหาสังกัดพรรคใหม่ว่า ตอนนี้เหลือเวลาอีกประมาณ 1 สัปดาห์ แต่เบื้องต้นมีความพยายามสกัดให้ตนเข้าพรรคการเมืองยาก แต่ที่ผ่านมานั้น ก็มีการคุยกับทางพรรคการเมืองอยู่ตลอด
วุฒิพงศ์ เปิดเผยอีกว่า ตอนนี้มีมากกว่าหนึ่งพรรคที่ติดต่อเข้ามา แต่อยากให้พรรคการเมืองเหล่านั้นได้แสดงเจตจำนงว่า ต้องการให้เราเข้าไปทำอะไร เพราะไม่อยากให้คิดว่า การเข้าไปในพรรคการเมืองนั้นๆ แล้วจะเป็นการเพิ่ม สส. เพียงอย่างเดียว อีกทั้งคิดว่า มันเป็นข้อเสนอที่ทำให้เราอยากร่วมงานด้วยด้วย
“ยืนยันว่า มีพรรคมากกว่าหนึ่งพรรคที่คุยอยู่ และกำลังตัดสินใจกับทีมงาน และที่ปรึกษาในเร็วๆ นี้เพื่อที่จะเข้าไปในพรรคไหน ยอมรับว่า มีทั้งพรรคที่มี สส. และไม่มี สส. ในสภาฯ“ วุฒิพงศ์ กล่าว
วุฒิพงศ์ กล่าวว่า ในกรณีนี้ก็ต้องพิจารณาก่อนว่า เขามองเห็นความสามารถที่เรามีไหม และทราบว่าเราทำงานด้านไหน คาแรกเตอร์ในการทำงานเป็นแบบใด รวมถึงในปลายเดือนนี้ทาง กมธ. จะไปศึกษาดูงานที่ประเทศจีน จึงต้องพูดคุยให้จบช่วงวันที่ 26-27 พ.ย.
ส่วนในเรื่องของเอกสารที่จะต้องดำเนินการนั้นไม่ซับซ้อน เพราะจดหมายที่พรรคก้าวไกลขับออกนั้นก็ชัดเจนว่า ตนไม่มีสังกัด และการเข้าสังกัดพรรคการเมืองใหม่ก็ทำเหมือนสมัครสมาชิกพรรค นายทะเบียนพรรค และหัวหน้าพรรคต้องเซ็นรับรองแล้วนำส่งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
วุฒิพงศ์ กล่าวถึงการให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) อุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ในกรณีที่ออกมาเปิดเผยว่า ผู้ช่วยของ เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับสินบนบ่อขยะในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี
วุฒิพงศ์ กล่าวว่า ตนมีเอกสารให้ทาง กมธ. พิจารณา ในเรื่องของการเอื้อผลประโยชน์บ่อขยะ ซึ่งมองว่าจะเป็นการกระทบภาคธุรกิจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และมองว่า ถ้าความเชื่อมั่นถูกทำลายลงไป จะมีผลกระทบกับนักลงทุนในภาวะที่เศรษฐกิจการลงทุนของประเทศเราถดถอย
วุฒิพงศ์ มั่นใจอีกว่า หลักฐานที่เตรียมมานั้นชัดเจน ทั้งเรื่องของรูปแบบกิจการบ่อขยะที่ก่อมลพิษต่อชุมชนซึ่งต้องชี้แจงต่อ กมธ. ให้ทราบข้อมูลในบางส่วน โดยที่ผ่านมาเรามีแต่การพูดถึงการลงพื้นที่ แต่ยังไม่มีใครพูดถึงต้นทางมากเท่าไหร่ ซึ่งการที่ เบญจา มาให้ข้อมูลในวันนี้ คาดว่าน่าจะรับทราบปัญหาได้โดยตรง เพราะตัวของ เบญจา ก็อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกอยู่แล้ว