ไม่พบผลการค้นหา
"โชคชัย" เรียกร้องรัฐบาลพิจารณาปรับลดงบประมาณกองทัพ เนื่องจากไม่ได้ทำให้สังคมและประชาชนปลอดภัยขึ้น ขณะที่ "เอกชัย" ขอให้ ผบ.ทบ.ช่วยหาข่าวกลุ่มคนที่ทำร้ายนักกิจกรรมด้วย และเชื่อว่า ผบ.ทบ.สามารถหาเจอแน่ เพราะผู้ต้องหาวางระเบิดยังรู้ตัวได้อย่างรวดเร็ว

นายเอกชัย หงส์กังวาน พร้อมด้วย นายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ในนามแนวร่วมนักกิจกรรม​เพื่อประชาธิปไตย เดินทางเข้ายื่นหนังสือที่ถึง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก หรือ ผบ.ทบ. หน้ากองทัพบก กรณีที่ ผบ.ทบ.อ้างรู้ว่าตัวคนร้ายที่วางระเบิดในกรุงเทพฯหลายจุด รวมถึงหาข่าวนักกิจกรรมและเคลื่อนไหวทางการเมืองถูกทำร้ายด้วย

นายเอกชัย ระบุว่า จากคำพูดการให้ข่าวของ ผบ.ทบ.และศักยภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ทั้งทหารและตำรวจ โดยเฉพาะความรวดเร็วในการ ให้ข่าวและจับกุมผู้ต้องสงสัยกรณีเหตุวางระเบิดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงเชื่อว่าจะสามารถหาคนร้ายที่ทำร้ายตัวเองถึง 7 ครั้ง เผารถยนต์อีก 2 ครั้ง รวมถึงการทำร้าย นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ในกรณีล่าสุดและนักกิจกรรมคนอื่นๆ ที่ผ่านมาได้ โดยเฉพาะหลังจากมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ประชาชนซึ่งรวมถึงนักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมืองควร ได้รับความปลอดภัยในการใช้ชีวิตและดำเนินกิจกรรมต่างๆ ด้วย

นายเอกชัย เปิดเผยด้วยว่า ได้เคลื่อนย้ายรถยนต์ของตัวเองที่ถูกเผาไปไว้ บริเวณรัฐสภาเกียกกาย เพื่อเป็นเชิงสัญลักษณ์ให้ฝ่ายการเมืองโดยเฉพาะรัฐบาล ตระหนักถึงความสำคัญในการหาตัวผู้กระทำผิดและดูแลความปลอดภัยของนักเคลื่อนไหวทางการเมืองด้วย ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าวมีผู้ติดต่อขอซื้อ แต่นายเอกชัยขอใช้ในกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์นี้ก่อน ยังไม่ขายในตอนนี้ แต่ล่าสุดมีผู้แจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เคลื่อนย้ายรถยนต์ของนางเอกชัยออกจากพื้นที่ดังกล่าวแล้ว และยังไม่ทราบว่าเคลื่อนย้ายไปไว้ที่ไหน ซึ่งจะดำเนินการติดตามสอบถามกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป

ขณะที่นายโชคชัย กล่าวว่า ทุกครั้งที่เกิดเหตุความไม่สงบ จะนึกถึงฝ่ายกองทัพเพราะเพียบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ งานข่าวต่างๆ และยุทโธปกรณ์ รวมถึงงบประมาณด้านต่างๆ จำนวนมหาศาล โดยเฉพาะในยุครัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ควรต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยนายโชคชัย มองว่าตัวเลขงบประมาณด้านความมั่นคงควรเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับความสงบและความปลอดภัยของประชาชน 

พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์รุนแรงก็จะเป็นเหตุอ้างในการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม พร้อมกันนี้ได้เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาข้อเสนอของพรรคการเมืองต่างๆ ที่ขอให้ลดงบประมาณกองทัพ เพราะงบประมาณมหาศาลไม่ได้ทำให้สังคมสงบและไม่ได้เป็นไปเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตามตัวเลขงบประมาณที่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด