ไม่พบผลการค้นหา
ตำรวจยื่นฝากขัง 'ปริญญ์' ด้าน 'แอนนา' ยื่นค้านประกันตัว หวั่นหลบหนีออกนอกประเทศ และใช้อำนาจปิดปากผู้เสียหารายอื่น ส่งผลทำให้เสียรูปคดี

เมื่อเวลา 07.55 น. วันที่ 17 เม.ย.พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี นัดหมาย ปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทนายความ เพื่อยื่นคำร้องขอฝากขังผัดแรกผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนท์ ในคดีที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเอาผิดในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา และกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล โดยเหตุเกิดในพื้นที่ สน.ลุมพินี ทั้งหมด 3 คดี

ทั้งนี้ ปริญญ์ เดินทางมาด้วยรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว ซีรีย์ 7 ทะเบียนป้ายแดง และแต่งกายโดยสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว ก่อนเดินขึ้นประตูหลังฝั่งข้างโรงพัก โดยไม่หลบหน้าสื่อมวลชน พร้อมเปิดเผยสั้นๆ ว่า ขั้นตอนขณะนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีข้อโต้แย้งอย่างไรในกรณีมีกระแสข่าวว่าทีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีพยายามยื่นเงินหลักล้านบาทกับผู้เสียหายให้หยุดเคลื่อนไหว ปริญญ์ ยังกล่าวย้ำคำเดิมว่าขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ก่อนขึ้นชั้นบนของโรงพักไปทันทีซึ่งตำรวจไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวตามขึ้นไป

พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี เผยว่า ขั้นตอนในวันนี้จะเป็นการนัดผู้ต้องหามาดำเนินการฝากขังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่สถานีตำรวจ เนื่องจากวานนี้ยังไม่มีการออกหมายจับ แต่ผู้ต้องหามามอบตัวก่อน จึงทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ซึ่งขั้นตอนในการขอยื่นประกันตัว ผู้ต้องหาต้องไปดำเนินการในชั้นศาล


'แอนนา' ยื่นค้านประกันตัว 'ปริญญ์'

ที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้ หทัยรัตน์ (วิทยพูม) ธนากิจอำนวย หรือ แอนนา และ ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท นักขับเคลื่อนกิจกรรมทางสังคม พร้อมทนาย ได้เดินทางมาศาลเพื่อยื่นคัดค้านการประกันตัว 'ปริญญ์' พานิชภักดิ์’ รอง หน.พรรคประชาธิปัตย์ จำเลยในคดีคุกคามทางเพศ ต่อศาล

โดย หทัยรัตน์ เปิดเผยว่า ที่เดินทางมายื่นขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องมีความกังวลว่า ปริญญ์ จะหลบหนีออกนอกประเทศ และใช้อำนาจปิดปากผู้เสียหารายอื่น ส่งผลทำให้เสียรูปคดี

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ปริญญ์ มีการติดต่อเพื่อขอโทษ บ้างหรือไม่ ธนัตถ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ หรือ ขอโทษจากอีกฝ่าย ซึ่งตนหวังว่า อย่างน้อยๆ พรรคประชาธิปัตย์ ควรแสดงท่าทีความรับผิดชอบต่อเรื่องดังกล่าวบ้าง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จากกรณีที่ หทัยรัตน์ ประกาศถอนตัวจากการเป็นผู้สมัคร ส.ก. เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจว่าในคดีถูกลวงไปบังคับข่มขืนนั้น มิใช่เรื่องทำเพื่อหวังผลทางการเมือง แต่ด้านผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่า การประประกาศถอนตัวจากการเป็นผู้สมัคร ส.ก. ไม่สามารถทำได้ ต่อจากนี้จะมีการดำเนินการอย่างไร หทัยรัตน์ กล่าวว่า ได้มีการสอบถามไปยัง ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานครแล้ว และได้ทราบข้อมูลว่า ตนไม่สามารถถอนตัวจากการสมัคร ส.ก. แต่สามารถสละสิทธิ์ในการดำรงตำแหน่ง ส.ก.ได้ ในกรณีที่ชนะการเลือกตั้ง ส.ก. และยังสามารถดำเนินคดีกับปริญญ์ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจได้ตามปกติ