ไม่พบผลการค้นหา
'มัลลิกา' ติงทีมเศรษฐกิจอย่าโม้ว่าเศรษฐกิจดี ทั้งที่ราคาไร่อ้อยตกต่ำ ด้าน 'อนุสรณ์' จี้คำพูดสุวิทย์ 'คนจะอดตายอยู่แล้ว' สะท้อนเศรษฐกิจไทยตกต่ำ ความเหลื่อมล้ำสูง หมดเวลา คสช. ลองผิดลองถูก
มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข.jpg

'มัลลิกา' ติงทีมเศรษฐกิจโม้เชศรษฐกิจดี แต่ราคาอ้อยตกต่ำ

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังจากการลงพื้นที่พบปะประชาชนครั้งล่าสุดที่จังหวัดสุโขทัยและจังหวัดอื่นๆ ที่มีเกษตรกรร้องเรียนผ่านอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวบรวมความเดือดร้อนมาแล้วพบว่าขณะนี้สถานการณ์เกษตรกรชาวไร่อ้อยกำลังเร่งตัดอ้อยส่งโรงงานน้ำตาลก่อนสิ้นปี เนื่องจากปีนี้ราคาอ้อยตกต่ำอย่างน่าตกใจ บางจังหวัด เช่น ปราจีนบุรี ล่าสุดสามารถขายได้เพียงราคา 800 บาท/ต่อตัน เท่านั้น ต่างก็วันเกรงว่าสิ้นปีนี้ราคาจะตกต่ำลงอีกเนื่องจากไม่มีความใส่ใจหรือกระตือรือร้นจากผู้บริหารกระทรวงทางด้านเศรษฐกิจทั้งที่มีการส่งสัญญาณก่อนนี้แล้ว 

นางมัลลิกา กล่าวว่า เกษตรกรร้องทุกข์ว่าสภาพความเป็นจริงของชาวไร่อ้อย ต่อให้ราคาจะถูกหรือแพงอย่างไรก็จำเป็นต้องตัดขายเนื่องจากถึงฤดูตัดเพราะเป็นพืชที่มีอายุเก็บเกี่ยวหนึ่งปีต้องรีบตัดภายในระยะเวลากำหนด หากล่าช้าโรงงานน้ำตาลพื้นที่ใกล้เคียงก็ปิดต้องนำไปขายในพื้นที่โรงงานที่ไกลกว่าเกษตรกรก็แบกรับภาระค่าขนส่งอีก 

"ถ้าไม่ตัดอ้อยส่งโรงงานใกล้เคียงก็สู้ราคาขนส่งไม่ไหว เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้วก็ต้องลงมือทั้งที่ราคาอย่างต่ำอยู่เรื่องนี้เกษตรกรได้สะท้อนปัญหามาระยะหนึ่งแล้วก่อนการเก็บเกี่ยวแต่จะสังเกตว่าแม้เกษตรกรหรือฝ่ายต่างๆ จะท้วงติงรัฐบาลอย่างไรก็ตามแต่กระทรวงพาณิชย์ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบร่วมกับกระทรวงทางด้านเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยเหลียวแลเท่าใดนัก ไม่รู้เอาเวลาไปทำอะไร ถ้าได้รับความใส่ใจจากรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลการเกษตรหรือถ้ามีรัฐมนตรีที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงเกษตรกรสามารถรวยได้ด้วยความเป็นธรรมทางด้านราคา" นางมัลลิกา กล่าว 

กรรมการบริหารพรรคปชป. กล่าวว่า สถานการณ์อ้อยในฤดูการผลิตปี 2561 / 2562 ได้มีการประกาศราคาอ้อยเบื้องต้นมาแล้วราคาตันละ 650 บาทส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยเจ้งกันระนาวเนื่องจากทางสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายได้มีการประเมินผลการลงทุนแล้วพบว่าจะต้องใช้เงินในการลงทุนปลูกอ้อยตันละ 1,041 บาท ที่เป็นเช่นนี้เป็นผลพวงมาจากรัฐบาลทำงานไม่เป็นประกอบกับการผลักดันให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปรังหันมาปลูกอ้อยส่งผลให้มีผลผลิตสูงขึ้นแต่รัฐบาลไม่ได้มีทักษะในการรองรับนโยบายของตนเอง 

จากการประเมินเบื้องต้น ของทางสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี เคยประเมินว่าอ้อยในประเทศปกติจะมีประมาณ 100 ล้านตัน ราคาอ้อยจะตกประมาณตันละ 1,000 บาท แต่ขณะนี้อ้อยในประเทศหลังจากรัฐบาลชุดนี้มีนโยบายส่งเสริมปลูกพืชหลังนาปรากฏมีปริมาณ 137 ล้านตันเป็นผลผลิตปี 2560 / 2561 ราคาอ้อยจึงตกต่ำย่อยยับเกษตรกรลำบากอย่างมาก เกษตรกรชาวไร่อ้อยนั้นเป็นพลังหลักของการผลิตพืชเศรษฐกิจของประเทศมาตลอดและเป็นพลังสำคัญของธุรกิจน้ำตาลทรายส่งออก แต่เขาต้องมาลำเค็ญเพราะความไม่เป็นงานของรัฐบาล สุดท้ายนี้จึงขอแนะนำว่ารัฐบาลควรหาวิธีออกมาตรการช่วยเหลือทดแทน เพราะทั้งหมดเป็นผลจากความผิดพลาดทางการบริหารของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลเอง 

อนุสรณ์  เอี่ยมสะอาด.jpg

อนุสรณ์ ชี้ คำพูดสุวิทย์ 'คนจะอดตายอยู่แล้ว' คือใบเสร็จมัด รัฐบาลล้มเหลวแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุ คนจะอดตายอยู่แล้ว ต้องเติมเงินให้ นั้น เท่ากับเป็นใบเสร็จมัดรัฐบาลล้มเหลวแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จำนวนบัตรคนจน 14.5 ล้านคน สวนทางกับสิ่งที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี บอกว่าคนจนจะหมดประเทศในปีนี้

รายงานบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน เครดิตสวิส ปี 2018 เผยข้อมูลว่าประเทศไทยคือประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ธนาคารแห่งประเทศไทยเผยหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 2 ล้านๆ หอการค้าไทยเผยประชาชนเป็นหนี้มากถึง 87.4% หนี้เฉลี่ยต่อครัวเรือน 316,623 บาท ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน พ.ย. 61 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 อยู่ที่ระดับ 80.5 ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจโดยรวมลดลงเช่นกัน อยู่ที่ระดับ 67.5 รัฐบาลจะพูดอะไรก็ได้ แต่มันสะท้อนชัดจากปัจจัยต่างๆ ว่าเศรษฐกิจฝืดเคืองจริง ประชาชนมีปัญหาหนี้สิน มีปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำ รวยกระจุก จนกระจาย แปลว่า 4 ปีที่ผ่านมามีแต่การหลอกลวงมาตลอดว่าเศรษฐกิจดี ประชาชนมีความสุขอยู่ดีกินดี ที่ผ่านมามันคือภาพลวงตาหรือไม่ แนะนำให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. รีบไปรับขันหมากจากพรรคพลังประชารัฐ เพื่อจะเปิดหน้าเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีให้ชัดเจน ขณะนี้ประชาชนเริ่มถามกันแล้วว่าจะให้เวลาพลเอกประยุทธ์และเครือข่ายอีก 4 ปี ในทำนองถามกันว่า 'อีก 4 ปี ไหมพี่' หมดเวลาแห่งการลองผิดลองถูก แต่ควรเป็นเวลาของมืออาชีพ เปลี่ยนคนทำไม่เป็น มาเป็นคนทำเป็น ดีกว่าหรือไม่