ไม่พบผลการค้นหา
'ทองสุข ทองราช' โชเฟอร์แท็กซี่ติดโควิด-19 คนแรกของประเทศไทย วัย 51 ปี เปิดใจ 'วอยซ์' เวลาผ่านมากว่า 1 ปี ตอนนี้ไม่กลัวติดเชื้อ แต่กลัวอดตายมากกว่า เมื่อจำนวนผู้โดยสารเมืองกรุงลด ทำรายได้หด จนแทบไม่พอหาเลี้ยงครอบครัว

ย้อนไปเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2563 ปรากฏข่าวพบผู้ป่วยยืนยันในประเทศไทยเป็นรายแรกที่ไม่มีประวัติเดินทางไปในพื้นที่ระบาด อาชีพขับแท็กซี่ มีประวัติรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 

ทองสุข​ ทองราช โชเฟอร์แท็กซี่วัย 51 ปี ย้อนเล่าประสบการณ์การติดโควิด-19 ให้ฟังว่า รับผู้โดยสารชาวจีนจากซอยนานา ไปส่งที่ซอยสุขุมวิท 49 หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ เริ่มมีอาการเป็นไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดหัว กินยาลดไข้ไม่หาย ไอ จึงไปตรวจที่ รพ.นพรัตน์ จนพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จากนั้นถูกส่งมารักษาตัวต่อที่ สถาบันบำราศนราดูรเป็นเวลา 9 วัน เมื่อออกจากโรงพยาบาลได้กักตัวเองในบ้านต่อเป็นเวลา 20 วัน เพื่อให้เกิดความมั่นใจในตัวเองว่าหาย 100% 

"หมอบอกว่าให้กักตัวอยู่บ้าน 14 วัน แต่ผมอยู่บ้าน 20 วัน เรากลัวสังคมรอบข้างรับไม่ได้" ทองสุข ระบุ
สัมภาษณ์ แท็กซี่ ติดโควิดรายแรก

ด้วยสปิริตของหัวหน้าครอบครัว และภาระหนี้สินทั้งในและนอกระบบ ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เมื่อกักตัวครบแล้ว ทองสุข​ จึงรีบออกมาขับรถแท็กซี่เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว แต่ก็ต้องพบผู้โดยสารขอลงจากรถกะทันหัน เพราะจำชื่อจำหน้าเขาได้ว่าเคยติดโควิด-19 มาก่อน  

"ตอนนั้นน้ำตาซึม คิดว่าจบสิ้นแล้วกับอาชีพนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปทำอาชีพอะไร เพราะอายุก็ 50 ปีแล้ว คิดถึงหน้าครอบครัว จึงฮึดสู้ต่อ ทีนี้เจอผู้โดยสารที่เขาจำหน้าเราได้อีก แต่คนนี้กลับไม่รังเกียจเรา กลับดีใจที่เจอเรา ถามไถ่อาการ ถามขั้นตอนการรักษา กำลังใจมาเลยหลังจากนั้น ทำให้เรารู้ว่ายังมีคนที่เขายังเปิดใจรับเราอยู่"


โอกาสกลับมาติดเชื้อน้อย แต่ไม่ประมาท

แม้โอกาสติดโควิด-19 รอบ 2 จะมีเปอร์เซ็นต์น้อยมาก แต่ ทองสุข ก็ไม่ประมาท วางมาตรการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อรถแท็กซี่ทุกวัน เตรียมเจลแอลกอฮอล์ และหน้ากากอนามัยไว้บริการผู้โดยสาร มีการล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งหลังจากรับเงินจากผู้โดยสาร และเมื่อผู้โดยสารลงจากรถแล้ว จะเปิดกระจกรถเพื่อให้อากาศถ่ายเท 

สัมภาษณ์ แท็กซี่ ติดโควิดรายแรก

"ผมว่าร่างกายแข็งแรงกว่าเดิมนะ ทุกวันนี้กลับไปบริจาคพลาสมารวมแล้ว 7 ครั้ง เพราะตั้งใจจะส่งต่อภูมิต้านทานต่อไวรัส เพื่อรักษาผู้ติดเชื้อรายใหม่ และยังมีบริจาคเลือดทุก ๆ 3 เดือนอีกด้วย" 


ระบาดระลอก 2 ผู้โดยสารลดฮวบ

ภายหลังการระบาดโควิด-19 ทองสุขยอมรับว่า จำนวนผู้โดยสารลดลงเป็นอย่างมาก กระทบต่อรายได้มากกว่า 90% เนื่องจากปกติผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ พอมาถึงการระบาดระลอก 2 ยิ่งหนักขึ้นกว่าเดิม ทำให้จำนวนแท็กซี่ในกรุงเทมหานครลดลง เพราะคนขับแท็กซี่ส่วนใหญ่กลับต่างจังหวัดไปกันหมด เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายค่าเช่ารถแท็กซี่ 

"ตั้งแต่ขับแท็กซี่มา 19 ปี เป็นครั้งแรกที่เจอวิกฤติแบบนี้ ปกติก่อนที่จะมีโควิด-19 นักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะ วิ่งรับผู้โดยสารจนแทบไม่ได้กินข้าว ต่างจากตอนนี้ที่แทบไม่ได้กินข้าวเหมือนกัน แต่เป็นเพราะไม่มีเงินซื้อ มองเงินในกระเป๋า ต้องนั่งคำนวณว่าถ้าเรากินข้าว จะไม่พอจ่ายค่าก๊าซ ต้องยอมอดข้าว บางวันวิ่งหาผู้โดยสารทั้งวันเหลือเงินกลับบ้านไม่ถึง 200 บาท" 

สัมภาษณ์ แท็กซี่ ติดโควิดรายแรก

หวังภาครัฐเยียวยารวดเร็ว-ครอบคลุม

ทองสุข บอกว่า ความหวังตอนนี้อยากให้ภาครัฐมีมาตรการเยียวยาให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม และรวดเร็วกว่านี้ โดยเฉพาะผู้ประกอบอาชีพให้บริการรถโดยสารสาธารณะ เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 โดยตรง  

"โครงการคนละครึ่งที่ผ่านมา ผมยังลงทะเบียนไม่ได้เลย กดกรอกข้อมูลกว่าจะเสร็จก็สิทธิ์เต็มเสียก่อน แล้วจะหวังให้รัฐเข้ามาช่วยเหลือมากกว่านี้ไม่รู้ว่าจะมากไปไหม ผมสงสารคนไทยที่จะต้องมาแย่งชิงกันแบบนี้ และก็สมเพชตัวเองมาก เหมือนแย่งห่อข้าวกันคนตั้งกี่ล้านคน ใครกระโดดสูงก็ได้ห่อข้าวไปกิน ใครกระโดดไม่ถึงก็ท้องแห้งเดินกลับบ้าน"

สัมภาษณ์ แท็กซี่ ติดโควิดรายแรก

ทองสุข​ ยอมรับว่าทุกวันนี้ไม่กลัวการติดเชื้อโควิด-19 แต่กลัวจะอดตายมากกว่า เพราะไม่รู้ว่าโควิด-19 จะหายไปจากประเทศเราเมื่อไร แล้วเมื่อไรสภาพเศรษฐกิจจะได้รับฟื้นฟู 

"อยากฝากบอกทุกคนว่า อย่าเพิ่งชะล่าใจ อย่าคิดว่าคุณจะไม่มีทางติดเชื้อ เราควรรักตัวเอง รักครอบครัว และรักสังคมไปพร้อมๆกัน ไม่อย่างนั้นโควิด-19 จะไม่หายไปจากประเทศเราแน่ๆ ตนเชื่อว่าถ้าทุกคนร่วมมือกัน มั่นใจว่าสักวันโรคนี้จะหายไป" ทองสุข ระบุ

ทองสุข ทองราช แท็กซี่ โควิด รายแรก -4982-B32D-0440123450E3.jpeg