วันที่ 1 พ.ค. 2566 เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ภาคใต้ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรครวมไทยสร้างชาติระหว่างวันที่ 29-30 เม.ย. 2566 ที่ผ่านมาว่า พี่น้องชาวใต้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเหมือนที่ผ่านมา ทำให้ยิ่งมั่นใจในกระแสความนิยมของ ลุงตู่ หรือพี่ตู่ ในพื้นที่ภาคใต้สูงกว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองอื่น ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อนประเทศให้ผ่านวิกฤตโควิด-19, การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจไว้ให้มั่นคง ที่สำคัญมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ภาคใต้แบบชนิดพลิกโฉม ไม่ว่าจะเป็น ถนน รถไฟ สนามบิน คลองระบายนํ้า รวมเกือบ 3 แสนล้านบาท ที่อนุมัติเพื่อพัฒนาพื้นที่ภาคใต้
“จุดเด่นของลุงตู่ หรือพี่ตู่ ในสายตาคนใต้ที่ผมได้รับการสะท้อนมา คือความจงรักภักดีต่อสถาบัน ความซื่อตรงต่อหน้าที่ ตั้งแต่สมัยเป็นทหาร จนมาเป็นนายกรัฐมนตรี ภาพลักษณ์ดังกล่าวชัดเจน ที่ผ่านมาท่านเสียสละทำงานด้วยความทุ่มเท ซื่อสัตย์ สุจริต ไม่โกงกิน มีความจริงใจต่อพี่น้องประชาชน สร้างความโดดเด่นแตกต่างจากภาพลักษณ์นักการเมืองหลายคนที่เคยสัมผัสมาก่อน”
เอกนัฏ กล่าวต่อว่า วันนี้การเมืองหากพี่น้องคนใต้ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ต้องเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งคน และพรรคเท่านั้น เพื่อให้มีส.ส.ทั้ง 2 ระบบมากที่สุดไปยกมือให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯอีกสมัย จะไปแยกเลือกให้เฉพาะบัญชีรายชื่อเบอร์ 22 ไม่ได้ อย่าไปหลงเชื่อผู้สมัครของพรรคอื่นๆที่มาบอกว่าส.ส.บัญชีรายชื่อให้เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วน ส.ส.เขตให้เลือกตน ซึ่งเป็นเพียงวาทกรรมหลอกลวง
"ผมมั่นใจว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะได้ ส.ส.เขตในภาคใต้เกินครึ่ง และจะได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์มากกว่า 3 ล้านเสียงในพื้นที่ภาคใต้ หลังจากนี้เราจะเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนที่อาจจะเข้าใจผิดว่า เลือกแค่บัตรพรรคเบอร์ 22 แล้วลุงตู่จะได้เป็นนายกฯต่อ เพราะหากอยากได้ลุงตู่เป็นนายกฯต่อเพื่อความสงบมั่นคงของประเทศต้องเลือกทั้งพรรค และคน กาให้พรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 2 ใบ โดยลุงตู่ก็จะเดินสายทำความเข้าใจด้วยตัวเองด้วย"