วันที่ 24 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการเดินทางไปตรวจราชการจังหวัดสุพรรณบุรี โดยจะเดินทางไปยัง ตำบลวังยาว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ว่า เป็นกำหนดการมาหลายวันแล้วในการไปแก้ปัญหาที่ดินทำกิน หลังจากได้รับการร้องเรียนมาก็ต้องไปดูแลแก้ไข ยืนยันว่าไม่ได้ไปเรื่องอื่นๆ ทั้งหมดที่นายกฯ ไปในเวลาราชการเป็นการทำงานตามกรอบนายกรัฐมนตรีและของรัฐบาลอยู่แล้ว ไม่ได้ไปเรื่องอื่นๆ ส่วนการลงพื้นที่ จ.ชุมพร ครั้งแรกในนามพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ค่อยว่ากันอีกทีเป็นเรื่องของพรรค 

เมื่อถามถึงกรณีที่ในวันเดียวกันนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะลงพื้นที่ชุมพรด้วยนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ใครจะไปก็ไปสิ แผ่นดินผืนนี้ ใครไปไหนก็ไปได้ไม่ใช่หรือ ใครจะไปก่อนไปหลังก็ไม่ได้มีปัญหา ไม่ได้ขัดข้อง อย่าไปเสนอข่าวทำนองนี้นะ เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไรอยู่แล้ว"

เมื่อถามว่า ตอนนี้นายกฯ ต้องลงพื้นที่ในภารกิจของนายกและในนามของพรรค นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็แน่นอนบทบาทของตนก็ต้องเปลี่ยนไปตามวาระที่ไป อะไรที่เป็นเรื่องของรัฐบาลก็ไป เพราะตนมีหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีต้องดูแลประชาชนทั้งประเทศอยู่แล้ว พร้อมติดตามแผนงานโครงการ ว่าได้ผลหรือไม่ได้ผลอย่างไรและมีปัญหาส่วนไหนก็ต้องไปแก้ไขในฐานะเป็นนายกฯ ส่วนเรื่องของพรรคก็เป็นเรื่องการหาเสียงของพรรคอะไรก็ว่ากันไป ซึ่งตนก็ต้องกำหนดบทบาทให้ชัดเจนเท่านั้นเอง

เมื่อถามว่า หลายคนก็มองเป็นการปาดหน้ากันลงพื้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "คนที่มองก็สื่อไม่ใช่หรือ คนอื่นไม่ได้มามอง" และเมื่อสื่อพยายามถามต่อ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตัดบทว่า ไม่มีแต่ พอแล้ว

เมื่อถามย้ำว่า แต่เป็นการลงในเวลาใกล้เคียงกันจึงเลี่ยงที่จะมองแบบนั้นไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมไม่ได้ผูกขาเขาไว้นี่นา ท่านก็ไม่ได้ผูกขาผม ผมไปไหนก็ไปได้ ท่านไปไหนก็ได้ ไปเวลาเดียวกันก็ได้ไม่มีปัญหาหรอก" 

และเมื่อถามว่าเป็นยุทธศาสตร์ทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ตอบคำถามและเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันทีด้วยท่าทีหงุดหงิด 

และในช่วงท้ายเมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ตอนนี้พี่น้อง 2ป. ดูมีระยะห่างต่อกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ไม่มีหรอกครับ" ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที