นันทิดา แก้วบัวสาย ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ โดยได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครหมายเลข 1 เพราะในช่วงการสมัครมีผู้สมัครเพียงคนเดียว พร้อมกันนี้มีผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดในนามกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้าอีก 36 คนครบทุกเขต และยังมีกลุ่มการเมืองอย่าง กลุ่มบางพลีรุ่งเรือง กลุ่มรวมพลังพระสมุทรเจดีย์ หรือกลุ่มพัฒนาสตรี อบต.บางโฉลง ลงสมัครในบางเขตด้วย 

• นันทิดา แก้วบัวสาย ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ

นันทิดา เปิดเผยว่า เหตุผลที่ตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะเคยได้ช่วยงาน ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ที่มีความตั้งใจมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ชาวสมุทรปราการที่ดีขึ้น เช่น หอชมเมือง และส่วนตัวต้องการมีส่วนช่วยพลัดดันโครงการของสมุทรปราการก้าวหน้า เช่น ตลาดเชิงการท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ และเชื่อมั่นทีมงานที่ขับเคลื่อนภารกิจนี้

ทั้งนี้ แม้จะเป็นศิลปินนักร้อง แต่นันทิดา ระบุว่า ด้วยประสบการณ์และความคุ้นเคยกับคนในพื้นที่และการทำงานกันจะส่งผลให้ประชาชนสนับสนุน และหากได้รับเลือกเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ยืนยันจะแก้ไขปัญหาเรื่องโควิด-19 ในพื้นที่พร้อมฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ประชาชน เช่น ตลาดเชิงการท่องเที่ยงที่ก่อสร้างแล้ว จะส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวเป็นแหล่งสินค้าที่ดีที่สุดของสมุปราการ เช่น อาหารทะเล ปลาสลิดบางบ่อ กุ้งเหยียด เพื่อสร้างรายได้ให้ประชาชน 

พร้อมกันนี้ชูยุทธศาสตร์และจุดเด่นการหาเสียง ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเป็นกลุ่มการเมืองที่จะสานต่อโครงการที่ทำไว้แล้ว

สะท้อนสาธารณชนตื่นตัวเลือกตั้งท้องถิ่น

อิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการรับสมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และสังเกตการณ์การจับสลากหมายเลขผู้สมัคร พร้อมกันนี้ได้กล่าวถึงภาพรวมของการรับสมัครการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)ในวันแรกว่า เห็นความตื่นตัวของผู้สมัครซึ่งเป็นภาพที่ดี สะท้อนให้เห็นถึงการตื่นตัวของสาธารณชนในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ ซึ่งหลังจากปิดรับสมัครจะประกาศรายชื่อผู้ลงสมัครหลังจากนั้นไม่เกิน 3 วันทำการ 

• อิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง

สำหรับเรื่องการหาเสียงต้องไปดูมาตรา 65 ของพ.ร.บ.ท้องถิ่น เป็นหลักซึ่งมีการห้ามในเรื่องการหาเสียงอยู่แล้ว ส่วนมาตรา 34 เป็นมาตราที่เกี่ยวกับการห้ามไม่ให้ข้าราชการการเมือง ส.ส. ส.ว. และผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกท้องถิ่นกระทำการโดยมิชอบด้วยอำนาจโดยการกลั่นแกล้งผู้สมัครและดำเนินการใดๆที่ให้คุณให้โทษแก่ผู้สมัคร 

การที่กฎหมายเปิดช่องทำให้ตัดทอนพรรคการเมืองในการส่งผู้สมัครลงตำแหน่งนายก อบจ.หรือไม่นั้น การเลือกต้องท้องถิ่นผู้สมัครสามารถสมัครเองได้ และพรรคการเมืองก็สามารถสนับสนุนผู้สมัครได้เช่นกัน ซึ่งสามารถติดโลโก้พรรคในการหาเสียงได้ แต่ต้องได้รับความยินยอมจากพรรค สำหรับคนที่มีชื่อเสียงแต่ไม่ได้สังกัดพรรคจะมาลงป้ายกับผู้สมัครได้หรือไม่นั้น ก็ไม่ได้มีการห้ามอะไร ถ้าหากไม่กระทบอะไรก็สามารถทำได้ 

ส่วนจะออกระเบียบอะไรเพิ่มเติมเพื่อทำให้เกิดความกระจ่างขึ้นในการหาเสียงหรือไม่นั้น กกต.มีหน้าที่ต้องตอบคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ถูกต้อง จากพรรคการเมืองหรือผู้สมัคร ซึ่งเรื่องนี้จึงต้องขอความเห็นจากกรรมการที่ปรึกษาทางกฎหมาย และในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ย.2563) จะดำเนินการตอบอย่างรวดเร็ว