ไม่พบผลการค้นหา
'ปานปรีย์' เผยสัญญาณบวกช่วยตัวประกันไทยได้สูง ดีลผู้นำตะวันออกกลางช่วยเจรจาอยู่ คาด 6 คนที่แจ้งกลับแต่หายตัวน่าจะปลอดภัยกลับภายหลังได้ ล่าสุดตั้งโต๊ะทำพาสปอร์ตให้ด่วน แม้ถูกนายจ้างยึดไว้ สั่งสถานทูตทำใหม่ให้ทันที ไม่ง้อเอกสาร

วันที่ 16 ต.ค. ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ และควาบคืบหน้าในการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล เมื่อช่วงเช้ามีแรงงานไทยเดินทางกลับมาจำนวนหนึ่ง และในช่วงเย็นก็จะมีมาเพิ่มเติม ในวันนี้ 19.30 น. จะกลับมาอีก 250 คน และแจ้งว่าไม่ปรากฏตัวอีก 6 คน จึงเหลือ 244 คน ในจำนวนนี้คาดว่าจะมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนราธิวาส 30 คน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร 3 คน ส่วนที่เหลือไม่แสดงความจำนงที่จะกลับในเรื่องนี้เข้าใจว่าผู้ปกครองของนักศึกษาก็มีความเป็นห่วง ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทยในอิสราเอลก็กำลังดำเนินการ ที่จะให้นักศึกษาเดินทางกลับมาก่อนเพื่อความปลอดภัย 

ขณะนี้ใครที่แสดงความจำนงกลับมาก่อนสถานทูตก็จะพร้อมนำส่งกลับไปทันที ซึ่งมีทั้งหมด 32 เที่ยวบิน คาดว่าไม่ต่ำกว่า 5,600 คน ส่วนที่เหลือกำลังประสานอยู่ให้กลับมาโดยเร็วที่สุด โดยใช้สายการบินของอิสราเอล

เมื่อถามถึง 6 คน ที่แสดงความจำนงจะกลับแต่หาตัวไม่พบเกิดจากสาเหตุใด นายปานปรีย์ แจงว่า มีการลงชื่อไว้แล้วแต่ไม่มาซึ่งกำลังติดตามตัวอยู่ ว่ามีสาเหตุใดถึงไม่มาและเครื่องบินไม่สามารถรอได้ แต่ไม่เป็นไรหากจะกลับมาก็ยังมีเที่ยวบินอยู่ ยืนยันว่าไม่น่าจะมีปัญหา น่าจะปลอดภัย 

ส่วนเรื่องการขยายเที่ยวบินเพิ่มอีกเพราะเนื่องจากว่ามีผู้ประสงค์ที่จะขอกลับมาเกือบ 7,500 คนแล้ว ปานปรีย์ ระบุ ตามแผนสามารถที่จะนำคนไทยกลับมาได้เกือบ 6,000 คนแล้ว ส่วนที่เหลืออีกกว่า 1,000 คนนั้น ขณะนี้กำลังประสานงานกับสายการบิน ที่อยู่ในพื้นที่อิสราเอล และตะวันออกกลาง โดยจะนำกลับมาเพิ่มขึ้นโดยเร็วที่สุด 

ส่วนที่มีข้อสงสัยเรื่องเที่ยวบินของไทยต้องบินผ่านหลายประเทศ มากกว่าประเทศอื่นที่ไปรับพลเมืองกลับมายังประเทศตนเอง ปานปรีย์ ชี้แจงว่า ตนคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือให้ คนไทย และนักศึกษาไทย สามารถจะเดินทางกลับได้ ส่วนการบินผ่านน่านฟ้าเงื่อนไขของแต่ละสายการบิน ก็มีความแตกต่างกัน เช่น สายการบินของกองทัพอากาศ ก็จะต้องบินอ้อมไปบ้าง แต่หากเป็นสายการบินพาณิชย์ที่อยู่ในพื้นที่ก็จะสามารถบินตรงได้เลย ส่วนเครื่องบินที่บินจากประเทศไทยไปถ้าเราไม่เคยบินผ่านมาก่อน ก็ต้องไปทำข้อตกลงกันใหม่ ซึ่งเรื่องนี้อยากให้สื่อมวลชนและประชาชนเข้าใจ ที่จะทำให้คนไทยว่าทำอย่างไรก็ได้ให้คนไทยกลับสู่ประเทศไทยอย่างปลอดภัยและเร็วที่สุด ถึงแม้จะใช้เวลาเพิ่มไปอีก 1-2 ชั่วโมงก็ตามที

เมื่อถามถึงเรื่องตัวประกันที่เป็นคนไทยซึ่งถูกจับอยู่ในอิสราเอลนั้นมีสัญญาณบวกหรือไม่ ปานปรีย์ ตอบว่า มีสัญญาณบวก แต่ยังไม่แถลงถึงความชัดเจนและประสานงานทุกฝ่าย อาจจะไม่ได้บอกถึงรายละเอียดว่าประสานประเทศไหนบ้าง แต่ยืนยันเราประสานทั้งสองฝ่าย คือฝ่ายอิสราเอล เพราะเขาต้องมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับคนของเรา ส่วนประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง ที่มีความสนิทสนมและคุ้นเคยกับทางปาเลสไตน์ และกลุ่มฮามาส เราก็ประสานกับเขาด้วย ล่าสุดเขาได้ส่งข่าวมาว่าแนวโน้มในการปล่อยตัวประกันมีสูงมาก ส่วนการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็ต้องใช้เวลา ในภาวะสงครามแบบนี้ จำนวนคนที่จะพิสูจน์อัตลักษณ์ก็จะต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร อย่างไรก็ตามพยายามเร่งให้ทางการอิสราเอล ขอให้เร่งทำในส่วนของประเทศไทยก่อน เพราะเราเพราะเราได้รับผลกระทบมากกว่าประเทศอื่น ซึ่งทางการอิสราเอลรับปากแล้วว่าจะเร่งให้ 

สำหรับสถานการณ์ล่าสุด นายปานปรีย์ได้เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตเช้าวันนี้ของชาวไทย คือเสียชีวิต 29 คน บาดเจ็บ 16 ราย ถูกจับเป็นตัวประกัน 17 ราย รับรองว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจทำงานแทบจะ 24 ชั่วโมง ซึ่งน่าเห็นใจที่สุดคือคนที่อยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะเอกอัครราชทูตและเจ้าหน้าที่ที่ส่งไปเพิ่ม ภายใต้ความกดดันที่มีมาก และอยู่ภายใต้ความเสี่ยง ดังนั้นจึงขอส่งกำลังใจไปให้เจ้าหน้าที่บ้าง เราจะทำให้ดีที่สุด และนำคนไทยกลับมาสู่ที่ปลอดภัยโดยเร็ว 

เมื่อถามอีกว่า มีแรงงานที่อยากเดินทางกลับประเทศไทยแต่ติดปัญหาเรื่องนายจ้างยึดพาสปอร์ตไว้ จึงไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ นายปานปรีย์ ระบุว่า นายกฯสั่งการไปแล้วว่าขั้นตอนเรื่องเอกสารให้ผ่านไปเลย ซึ่งในเวลานี้กระทรวงการต่างประเทศได้ตั้งระบบให้สามารถออกพาสปอร์ตให้คนไทยได้เลยทันทีโดยไม่ต้องสนใจว่า คนนั้นรายนั้นเขาจะเคยมีบัตรประชาชนพาสปอร์ตของตัวเองหรือไม่ เพื่อให้สามารถกลับประเทศไทยได้โดยเร็ว 

ขณะที่มีบางส่วนซึ่งเป็นแรงงานไทยก็ประสงค์ที่จะอยู่ต่อและทำงานภายใต้ภาวะสงคราม ทำงานไปด้วยหลบระเบิดไปด้วย ตามที่มีการเผยแพร่คลิปในโซเชียลมีเดีย ทางกระทรวงการต่างประเทศก็จะประสานช่วยเหลือพูดคุยกับนายจ้างแรงงานไทย กลุ่มนี้อย่างไร นายปานปรีย์ ตอบว่า ในเรื่องนี้สถานทูตไทยในอิสราเอลมีข้อมูลทั้งหมดอยู่แล้ว มีการติดต่อประสานงานกันอย่างใกล้ชิด หากนายจ้างไม่ยอมให้ออกมา ตนก็คิดว่าเป็นเรื่องบังคับไม่ได้ เป็นเรื่องของชีวิต เรื่องอื่นเป็นเรื่องทีหลัง แต่ถ้าแรงงานประสงค์จะกลับเราก็พร้อมดำเนินการทันที

ปานปรีย์ กล่าวว่า เราก็ต้องการให้ยุติสงครามตั้งแต่ตอนนี้เลย ได้คุยกับผู้ใหญ่ในประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งก็กำลังประสานงานและขับเคลื่อนต่างๆ โดยข้อแรกขอให้มีการหยุดยิงก่อนและให้มีการเจรจา เพราะเขาก็เป็นห่วง ถึงแม้จะเป็นภูมิภาคเดียวกับอิสราเอล และปาเลสไตน์ แต่ทุกประเทศภูมิภาค ต่างเร่งรัดและพยายามให้เกิดความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นในอิสราเอล และในฉนวนกาซ่าโดยเร็วที่สุด

สำหรับเรื่อง สถานเอกอัครราชทูตไทยในฝรั่งเศส ได้มีการประกาศแจ้งเตือน ให้คนไทยที่อยู่ในฝรั่งเศสและนักท่องเที่ยวระมัดระวังตัวเพราะมีข้อมูลว่า จะเกิดความไม่ปลอดภัยจากกรณี ผลกระทบจากการสู้รบในอิสราเอล รมว.ต่างประเทศ ระบุ ทุกสถานทูตกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งไปยังทุกสถานทูต ขอให้คนไทยในทุกประเทศระมัดระวังตัว แม้จะไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก็ตาม รวมถึงจะไม่มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวไทย ในช่วงไฮซีซั่น ซึ่งต่อให้ไม่มีสถานการณ์นี้คนไทยเองต้องระมัดระวังตัวกัน อาจจะมีคนที่ไม่ประสงค์ดีเข้ามาทำร้าย โดยคาดว่าเป็นประเทศในแถบยุโรป คนไทยที่จะเดินและมั่นใจว่าไม่มีผลกระทบต่อคนไทยที่จะไปท่องเที่ยวในแถบยุโรปในช่วงไฮซีซั่น เป็นเพียงแค่การระมัดระวังตัวเพราะเราไม่มีความขัดแย้งกับประเทศใด ไม่มีเหตุผลที่จะมาทำร้ายเรา