ไม่พบผลการค้นหา
ความสัมพันธ์ของพี่น้อง “2ป.บูรพาพยัคฆ์” ระหว่าง “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม กับ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาถึงทาง “สามแพร่ง” ที่จะต้องเลือกไปทางใดให้ชัดเจน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในระยะหลังมานี้มี “ระยะห่าง” อย่างเห็นได้ชัด

และมีท่าทีที่ “แคร์กันน้อยลง” ตามมา ด้วยสิ่งต่างๆที่สั่งสมมานาน โดยมีจุดตัดสำคัญคือเหตุการณ์ “ล้มนายกฯ” กลางสภา เมื่อปีที่แล้ว จน พล.อ.ประยุทธ์ พูดทำนองว่ามี “หลงหูหลงตา” เกิดขึ้น นำมาสู่การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ส่งคนของตัวเองเข้าไปภายใน พปชร. มากขึ้น

สภาวะขบเหลี่ยมกันเองเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ ต่อมาต้นปี 2565 พล.อ.ประวิตร ได้เรียกประชุมพรรคพลังประชารัฐด่วน ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เพื่อมีมติขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรพลังประชารัฐ พ้นพรรค แถมพ่วง 20 ส.ส. มุ้งผู้กอง ออกไปด้วย ชนิดที่ว่ามีเสียงเตือนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ ว่าระวังจะเป็นการ “ปล่อยเสือเข้าป่า”

ซึ่งเท่ากับเป็นการสร้าง “อำนาจต่อรอง” ให้ ร.อ.ธรรมนัส ทันที หลังขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย จึงเกิดการงัดข้อระหว่าง ร.อ.ธรรมนัส กับ พล.อ.ประยุทธ์ ผ่านวิวาทะต่างๆ และไม่ประกาศชัดหนุนรัฐบาลหรือไม่ แถมยังส่ง “บิ๊กน้อย”พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ไปเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยด้วย ที่เปรียบเป็นฐานที่มั่นอีกแห่งของ พล.อ.ประวิตร งานนี้ทำให้ พล.อ.ประวิตร ถูกมองว่า “ให้ท้าย-หลิ่วตา” ร.อ.ธรรมนัส หรือไม่

ธรรมนัส วิชญ์ เศรษฐกิจไทย -F5A9-45C0-AE3B-A0CEE242D75F.jpegประยุทธ์ แรมโบ้อีสาน สุภรณ์ เสกสกล

สัปดาห์ที่ผ่านมากระสุนตกไปที่ “แรมโบ้ อีสาน”เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ปมคลิปเสียงโควต้าหวยหลุดออกมา ซึ่งตัวละครสำคัญในคลิปคือ “จุรีพร สินธุไพร” ข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ ที่ย้อนโปร์ไฟล์ไปจะพบว่ามีความใกล้ชิดกับ ร.อ.ธรรมนัส ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ยุค นปช. เพราะ “จุรีพร” เป็นแกนนำเสื้อแดง งานนี้จึงถูกมองว่ามีการ “วางยา” หรือไม่ และถูกมองว่าเป็น “เกาเหลาคนละชาม”

ที่สำคัญเหตุการณ์คลิปเสียงมาเกิดช่วงหลัง “แรมโบ้” นำประชุมใหญ่ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” พร้อมประกาศชู พล.อ.ประยุทธ์ เป็น นายกฯ สมัยหน้า แต่เมื่อ “แรมโบ้” โดนพิษคลิปเสียง ก็ตามมาด้วยการที่ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ปรึกษานายกฯ ลาออกจากสมาชิก พปชร. ว่ากันว่าก็เพื่อมาทำพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ถูกมองเป็น “พรรคสำรอง” ของ พล.อ.ประยุทธ์ นั่นเอง

ในเวลานี้ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างมากนัก เพราะ “ขุนพล” ยังไม่ได้รับไฟเขียวให้อพยพเข้ามา รวมทั้งยังเคลียร์เรื่อง “นายทุน” ไม่ลงตัว ที่ลุกลามมาเข้ามายัง ครม. เพราะเข้าทำนองที่ว่าไป “เหยียบเท้ากันเอง” กลายเป็นปัญหาที่ “เงื่อนปม” เต็มไปหมด

แถมงานนี้ พล.อ.ประวิตร ยังเร่งเติม “คนของตัวเอง” เข้าไปใน พปชร. ล่าสุดกับการตั้งอดีตนายทหารสายตรง 2 คน นั่งกรรมการบริหารพรรค ได้แก่ เสธ.โย”พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ อนุกรรมการฝ่ายหารายได้ มูลนิธิอนุรักษป่ารอยต่อ 5 จังหวัด อดีตฝ่ายเสนาธิการ พล.อ.ประวิตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม ที่เติบโตจาก พล.ร.2 รอ. สายบูรพาพยัคฆ์ และ “บิ๊กอี๊ด”พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร อดีตแม่ทัพภาค 2 มือทำงานในพื้นที่ภาคอีสานให้ พล.อ.ประวิตร

ต่อมา พปชร. ทำป้าย พล.อ.ประวิตร สวัสดีปีใหม่ไทย ตามถนนสายเหนือ-อีสาน เป็นที่ฮือฮาอย่างมาก เพราะที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ไม่เคยนำเสนอตัวเอง “เอิกเกริก” แบบนี้ นัยยะจึงไม่ใช่แค่การหาเสียงเท่านั้น จึงถูกมองว่าเป็น “คู่เทียบนายกฯ” ขึ้นมาทันที เรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร ออกอาการไม่น้อย เมื่อถูกถามถึงเรื่องป้าย

“หาเสียงอะไร หาเสียงอย่างไร ปัดโธ่ ก็ทำในฐานะหัวหน้าพรรค มีสิทธิที่จะทำได้” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ประวิตร  07571-1-1.jpg

จากนั้นถูกถามจี้จุดว่าอยากเป็น นายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร อุทานว่า "ปัดโธ่เอ๊ย แล้วนายกฯเขาติดได้ไหมล่ะ นายกฯติดไม่ได้” ตรงนี้เป็นเหตุผลทางข้อกฎหมาย ไม่เช่นนั้นจะเป็นการ “ครอบงำพรรค” ได้ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นสมาชิก พปชร. และไม่มีตำแหน่งใดๆในพรรค

แต่งานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็มีท่าทีล็อกคอ พล.อ.ประวิตร โดยพูดว่า “หัวหน้าพรรคเขาบอกว่าเสนอคนเดียวนี่นา ฟังหัวหน้าพรรค” หลังโดนถามว่าหาก พปชร. ส่งชื่อแคนดิเดต นายกฯ 3 คน ขึ้นมาจะทำอย่างไร เมื่อไปถาม พล.อ.ประวิตร กลับพูดทำนองปัดให้พ้นตัวว่า “ไม่รู้” ซึ่งระยะหลังๆมานี้ทั้ง “3ป.” พูดกันคนละทางบ้าง และบางครั้งก็ตอบเหมือนพูดได้ไม่เต็มปาก 

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังคงเชื่อว่า “พี่ป้อม” ไม่คิดเป็น นายกฯ แม้จะไม่เคยคุยกันและสงสัยกันในเรื่องนี้ แม้จะมีคนรอบข้าง พล.อ.ประวิตร แอบเชียร์ให้ขึ้นเป็น นายกฯ เองเลย ว่ากันว่าแนวทางนี้ก่อตัวมาตั้งแต่ “แผนล้มนายกฯ” คราวก่อนแล้ว

”ผมไม่รู้ว่าใครพูด แต่ผมถามพล.อ.ประวิตร ท่านก็พูดแบบเดิมทุกครั้ง เราไม่เคยพูดกันเรื่องนี้ ไม่เคยสงสัยเรื่องนี้ ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมแตกคอกันได้ทั้งสิ้น ไม่มีอะไรทั้งสิ้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

“ท่านก็ไม่เคยบอกว่าจะเป็นหรือไม่เป็น แต่ท่านก็บอกผมว่าท่านก็ยินดีและสนับสนุนนายกฯตลอดไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ประวิตร ประยุทธ์ คณะรัฐมนตรี -F6E4-49D9-A3AF-CBECB1562550.jpeg

ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่าง “2ป.” ยังคงอยู่ร่วมกันอย่าง “หวาดระแวงกัน” ต่อไป แต่ละฝ่ายมีเกม “เกทับบลัฟแหลก” ช่วงชิงโอกาสต่างๆ ในการสร้าง “อำนาตต่อรอง” ใส่กัน สถานการณ์นับวันยิ่งสุกงอมมากขึ้น

อาจเป็นชนวนสำคัญที่จะนำมาสู่ “ความเปลี่ยนแปลงใหญ่” ทางการเมืองในอนาคต ด้วยแผงอำนาจ “3ป.” ที่คุมประเทศมานาน 8 ปี ยึดโยงผ่าน “ตัวบุคคล-เครือข่าย” มากกว่า “ระเบียบกติกา-รัฐธรรมนูญ” ตามครรลองที่ควรจะเป็น ทำให้การเมืองในเวลานี้ เฝ้าดูบรรดา “นกรู้” ให้ดีว่าจะบินไปทางไหน

บางคนไปอยู่กับใคร “นายตายหมด” ก็มีมาแล้ว !!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง