ไม่พบผลการค้นหา
ผบ.ทบ. เสียใจกำลังพลประสบเหตุเครื่องบินตกที่แม่ฮ่องสอน เตรียมปูนบำเหน็จพิเศษ พร้อมยืนยันยังไม่มีแผนปลดระวางเครื่องบินเก่า เหตุกองทัพงบน้อย ยังมีภารกิจจำเป็นต้องใช้งาน พร้อมแสดงความเสียใจอดีตหน่วยซีลเสียชีวิตขณะช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี ชื่นชมเป็นผู้เสียสละ

พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยถึงเหตุการณ์เครื่องบินลาดตระเวน ของกองกำลังนเรศวร ที่ประสบอุบัติเหตุตกภายในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีนักบินจำนวน 2 นาย คือ ร.ท. ณฤพล พุกทอง และ ร.ท. วโรจน์ แปลงกระโทก พร้อมผู้โดยสาร จำนวน 2 นาย คือ ร.ท. เขมราช ดวงแก้ว และ จ.ส.อ. นัฐชนันท์ เขื่อนแก้ว ที่ร่วมทำการลาดตระเวนทางอากาศ และเมื่อเวลาประมาณ 10.56 น. วันที่ 5 ก.ค. 2561 ได้ขาดการติดต่อกับหอบังคับการบิน จนกระทั่งได้พบซากเครื่องบินในบริเวณเขตใต้บ้านห้วยผึ้ง ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งกำลังภาคพื้นจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17 หรือ ฉก.ร. 17 เข้าไปค้นหาจุดที่เครื่องบินตกอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร

และได้พบทั้ง 4 นาย พบว่าเสียชีวิต 3 นาย คือ ร.ท. ณฤพล พุกทอง นักบินสังกัด พัน บ.21 ร.ท. วโรจน์ แปลงกระโทก นักบินสังกัด พัน บ.21 และ ร.ท. เขมราช ดวงแก้ว ผบ.มว.ปล.ที่ 1 ร้อย.ร.1743 ฉก.ร.17 ฐานฯ ห้วยผึ้ง ส่วนผู้บาดเจ็บคือ จ.ส.อ. นัฐชนันท์ เขื่อนแก้ว ส.ส่งกำลัง ร้อย.ร.1743 ฉก.ร.17 ฐานฯ กุงไม้สัก ได้รับบาดเจ็บกระดูกหักแต่รู้สึกตัวสามารถพูดคุยได้ 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานตามภารกิจของหน่วยป้องกันชายแดน โดยการใช้เครื่องบินชนิดยู 17 บินลาดตระเวนตามห้วงระยะเวลา ตามแผนงานด้านความมั่นคง คือการบุกรุก การรุกล้ำเขตชายแดน ภารกิจด้านยาเสพติดและภารกิจด้านการป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งเที่ยวไปสภาพอากาศดี แต่คาดว่าเกิดเหตุการณ์เครื่องขัดข้อง

Cessna 182-เครื่องบินตก-เซสนา 182

โดยเครื่องบิน Fixed wing บท. 17 หรือ Cessana-182 ทางกองทัพบกได้จัดหามาตั้งแต่ปี 2524 ทั้งหมด 9 ลำ รวมเวลา 37 ปี มีการซ่อมแซมไปตามระยะเวลาและปัจจุบันมีการใช้งาน 3 ลำ ซึ่งขณะนี้ทางศูนย์การบินทหารบกอยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุ โดยศูนย์การบินทหารบกยืนยันว่าได้มีการตรวจสอบสภาพเครื่องบินโดยตลอด ซึ่งการใช้งานเครื่องบินทั้ง 9 ลำที่ผ่านมา ไม่เคยประสบปัญหาแต่อย่างใด ส่วนการปลดระวางเครื่องบินชุดดังกล่าวเนื่องจากใช้งานมานานนั้น ทางกองทัพบกก็ไม่ได้ร่ำรวยและยังมีภารกิจต้องใช้งานตามความจำเป็น

ทั้งนี้ ทางกองทัพบกได้มีการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น และขอพระราชทานยศพิเศษรวมถึงการดูแลเรื่องสิทธิสินไหมในสงครามและการดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ ซึ่งการทำงานตามหน้าที่ของทหารก็จะมีความเสี่ยงอันตรายอยู่ตลอด 

เฉลิมชัย สิทธิสาท.jpg

ผบ.ทบ. เสียใจอดีตหน่วยซีลเสียชีวิตขณะช่วยเหลือทีมหมูป่า ชื่นชมเป็นผู้เสียสละ

พลเอก เ��ลิมชัย แสดงความเสียใจกับการเสียชีวิตของ จ.อ. สมาน กุนัน นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ ซึ่งเป็นนักทำลายใต้น้ำจู่โจม รุ่น 30 อายุ 38 ปี ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจภายในถ้ำหลวง โดย จ.อ. สมาน ได้ทุ่มเทชีวิตทั้งชีวิตสำหรับการทำงานครั้งนี้ เป็นอดีตข้าราชการที่มีจิตอาสาเข้ามาช่วยเหลือ แต่ขอยืนยันว่าทุกคนที่เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่มีความรู้และความสามารถ แต่ไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นในช่วงเวลานั้นจึงทำให้เกิดความพลาดพลั้ง ซึ่งอยากให้ทุกคนเข้าใจสถานการณ์ว่าการทำงานในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งผู้ปฏิบัติงานพักผ่อนน้อยสภาพความเป็นอยู่ไม่เหมือนที่เคยเป็น จึงอาจเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับตัวเองโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัว ซึ่งตัวเองก็ได้เน้นย้ำกับกำลังพลว่าแม้ใจต้องการให้ความช่วยเหลือก็คิดว่าไหว แต่ก็ขอให้ประเมินตัวเองด้วยความระมัดระวังเพราะการดำน้ำและกระโดดร่มเป็นสิ่งที่ค่อนข้างเสี่ยงอันตราย 

ทีมหมูป่า2.jpg

ส่วนการนำทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย จำนวน 13 คน ซึ่งติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ในเขตวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ออกมาจากภายในถ้ำ

ตนเองได้มีการชี้แจงและสั่งการในที่ประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก หรือ นขต. ถึงการช่วยเหลือการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งขณะนี้กำลังพลในส่วนของกองทัพบกที่ไปสนับสนุนภารกิจช่วยโค้ชและเยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำ มีทั้งสิ้นประมาณ 1,256 คน ซึ่งถือว่ามีความเพียงพอ โดยเป็นการปฏิบัติงานภายในถ้ำร่วมกับหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นรส.) หรือหน่วยซีล เพื่อช่วยเหลือในภารกิจการลำเลียงและขนย้ายอุปกรณ์ต่างๆ การสนับสนุนการระบายน้ำในพื้นที่รอบถ้ำ การเบี่ยงเบนทางน้ำ และการปฏิบัติภารกิจบนภูเขาร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช 

อย่างไรก็ตาม ตนเองได้สั่งการเพิ่มเติมเรื่องการสับเปลี่ยนกำลัง เพื่อหมุนเวียนกำลังพลเข้าไปในกรณีที่มีกำลังพลบางส่วนมีความอ่อนล้า แต่กำลังพลส่วนใหญ่ยังคงปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ตามปกติ

สำหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่ ทางนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน มี พล.ต.สุภโชค ธวัชพีระชัย รองแม่ทัพภาคที่ 3 เข้าร่วมปฏิบัติงานด้วย ซึ่งก็ได้มีการรายงานเหตุการณ์ความคืบหน้าการปฏิบัติงานให้ตัวเองได้รับทราบทุกวัน โดยเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ก็ได้รายงานว่ามีความขาดแคลนนักดําน้ําขั้นพื้นฐาน เพื่อปฏิบัติงานส่วนหน้าในการลำเลียงขนอุปกรณ์เข้าไปภายในถ้ำ ซึ่งทางกองทัพบกก็ได้ส่งกำลังสนับสนุนเข้าไปปฏิบัติงานแล้ว โดยทางกองทัพบกจะเป็นผู้สนับสนุนในเรื่องกำลังพลและอุปกรณ์เครื่องใช้ที่ขาดแคลน

สำหรับการนำทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำ ต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ 3 ประการ คือ 1. ความพร้อมของเจ้าหน้าที่ ทั้งหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือ ยุทธการ หรือ หน่วยซีล และหน่วยสนับสนุน รวมถึงความพร้อมของยุทโธปกรณ์ ซึ่งขณะนี้ถือว่ามีความพร้อมแล้ว

2. ความพร้อมของเด็กทั้งทางร่างกายที่ต้องได้รับการฟื้นฟูจนแข็งแรง เพราะการเดินทางออกจากถ้ำต้องใช้เวลา 5 ชั่วโมง ความพร้อมในการใช้เครื่องมือที่ต้องมีการเรียนรู้ และความพร้อมทางด้านจิตใจที่ต้องนิ่งสามารถควบคุมสติได้ เพราะในบางช่วงเด็กอาจต้องดำน้ำด้วยตัวเอง

3. สภาวะแวดล้อมเรื่องน้ำและอากาศซึ่งหากปริมาณเพิ่มมากขึ้นก็จะเป็นปัญหา แต่หากปริมาณน้ำลดลงก็จะเอื้อต่อการนำเด็กออกมาจากถ้ำ ส่วนเรื่องอากาศได้รับทราบว่าขณะนี้ในพื้นที่ก็ได้มีการหาทางเพิ่มขวดอากาศเข้าไปภายในถ้ำแล้ว

ขณะที่แนวทางการนำผู้ประสบภัยออกมาจากถ้ำนั้น ไม่ว่าจะเป็นทางอุโมงค์หรือดำน้ำออกมาจากถ้ำก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันซึ่งผู้ปฏิบัติงานหน้างานก็ต้องประเมินสถานการณ์ทุกอย่างทั้งความพร้อมของเด็กและสภาวะแวดล้อมก่อนตัดสินใจอยู่แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: