นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เสนอขอแก้กฎหมายการแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งว่า การแก้กฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของสนช. ส่วน กกต. อยู่ในฐานะเป็นผู้ปฏิบัติตามกฎหมายที่ สนช. ออกมา กฎหมายว่าอย่างไรก็เดินไปตามนั้น เพราะถ้าไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอาจจะผิดตามมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ กกต.ไม่จำเป็นต้องไปชี้แจงกับใคร เพราะเป็นเพียงฝ่ายปฏิบัติ และหากยังไม่มีการแก้ไขกฎหมายสามารถ ดำเนินการตามตารางเวลาที่วางไว้ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีการวางคนที่ใกล้ชิด หรือมีความจำเป็นตั้งคนของตัวเอง
ส่วนจะมีผลกระทบต่อการตรวจสอบการทำงานหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ยังตอบอะไรไม่ได้ เพราะสนช.ยังไม่ได้ยื่นเรื่องเพื่อขอแก้กฎหมาย ยืนยัน กกต.ได้ปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ และไม่ได้ไปละเมิดกฎหมายแต่อย่างใด
นายศุภชัย กล่าวถึงการหารือรอบสองเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ระหว่าง คสช. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ที่จะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนว่า ได้พูดคุยกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับข้อเสนอต่างๆ ของพรรคการเมืองว่าต้องดำเนินการอย่างไร ในช่วงเวลา 90 วัน ภายหลัง ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ประกาศใช้ แต่ยังไม่มีผลบังคับใช้ ระหว่างในช่วง 90 วันนี้ จะขอให้ กกต. แบ่งเขตการเลือกตั้งได้ก่อน โดยจะขอให้ คสช. ใช้มาตรา 44 เพื่อให้อำนาจ กกต.ทำการแบ่งเขตการเลือกตั้งก่อน เพื่อพรรคการเมืองทำไพรมารีโหวตได้ เพราะถ้าไม่มีเขตเลือกตั้งที่แน่ชัด จึงยังไม่สามารถทำไพรมารีโหวตได้
นายศุภชัย กล่าวว่า การทำไพรมารีโหวต ต้องทำตามกฎหมายที่ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนเรื่องของการปลดล็อกและคลายล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้นั้น เป็นหน้าที่ของ คสช. โดยในส่วนของพรรคการเมืองเดิม ที่ยังไม่สามารถประชุมพรรค เพื่อดำเนินการคัดเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค หรือเปิดรับสมาชิกใหม่ได้หากจะดำเนินการต้องขออนุญาตของ คสช.ก่อนเป็นรายกรณีไป แต่ทั้งนี้การหารือรอบสองนายวิษณุระบุว่าจะเป็นหน้าที่ของ กกต.ชุดใหม่