ไม่พบผลการค้นหา
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ส่งชุดเฉพาะกิจเฝ้าระวังและบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วง 7 วันอันตรายของเทศกาลปีใหม่ จำนวน 3 สาย วันแรกวันเดียวลงพื้นที่ตรวจสอบ จำนวน 128 ราย พบการกระทำผิด 4 ราย

วันนี้ (30 ธ.ค. 2560) นายแพทย์นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากกรมควบคุมโรค ให้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจเตือนและบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายในพื้นที่ ตั้งแต่ 28 ธันวาคม 2560 – 2 มกราคม 2561 โดยแบ่งเป็น 3 สาย ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เน้นย้ำ“คนเมาไม่ขับ คนกลับไม่ดื่ม” หวังลดการเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้การบาดเจ็บและเสียชีวิตในช่วง 7 วันอันตรายของเทศกาลปีใหม่ปีนี้

การดำเนินการครั้งนี้มีเป้าหมายดำเนินการใน 12 จังหวัด แบ่งออกเป็น 3 สาย ได้แก่ สายที่ 1 ภาคเหนือ เชียงใหม่ ลำปาง พิษณุโลก กำแพงเพชร สายที่ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม อุดรธานี และสายที่ 3 ภาคกลาง ราชบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครปฐม ซึ่งเป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 โดยเน้นย้ำตรวจตราอย่างเคร่งครัดในมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่บุคคลที่อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือในลักษณะลดราคาเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการขาย การให้หรือเสนอให้สิทธิในการชิงโชค ชิงรางวัล หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดตอบแทน การแจก แถม ให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือการให้บริการอย่างอื่น ให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในช่วงเวลาที่กฎหมายกำหนด รวมไปถึงห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มิได้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

นายแพทย์นิพนธ์ กล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบของทั้ง 3 สายในวันแรก (วันที่ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมา) จำนวน 128 ราย ดังนี้ ภาคกลาง ในพื้นที่นนทบุรี-สมุทรสาคร ผลการตรวจสอบ ทั้งหมด 45 ราย พบการกระทำความผิด จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย ม.27(6) การจำหน่ายในสถานบริการน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 2 ราย  ม.32 การโฆษณา จำนวน 1 ราย และไม่มีใบอนุญาตขายสุรา 1 ราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการกล่าวโทษ และส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี ต่อไป

สายที่ 2 ภาคอีสาน ในพื้นที่จากจากลพบุรีถึงอุดรธานี เป็นสถานีบริการน้ำมัน 49 ราย ร้านขายยา 1 ราย รวม 50 ราย ไม่พบการกระทำความผิดแต่อย่างใด และสายที่ 3 ภาคเหนือ จาก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ถึง อ. เมือง จ.เชียงใหม่ ทั้งสิ้น 33 ราย เป็นสถานบริการน้ำมันทั้ง 33 ราย ไม่พบการกระทำความผิดเช่นกัน สำหรับวันถัดไปทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสถานประกอบการที่มีอัตราเสี่ยงในเขตที่เกิดอุบัติเหตุสูง ต่อไป ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือพบเห็นการกระทำที่ต้องสงสัยว่าเป็นการกระทำผิด สามารถโทรสอบถามได้ที่สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โทร 02 590 3342 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422