สำนักข่าว RT รายงานว่า เทสลา บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งยุค เปิดเผยแผนทางธุรกิจล่าสุดซึ่งได้รับการอนุมัติจากบอร์ดผู้ถือหุ้น โดยมีใจความว่า นายอีลอน มัสก์ ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารของบริษัทเทสลา จะมีรายได้หรือได้รับค่าจ้างจากบริษัทก็ต่อเมื่อมูลค่าหุ้นของบริษัทในเวลา 10 ปีต่อจากนี้ไปสามารถพุ่งทะยานได้อย่างน่าประทับใจ และสร้างมูลค่าทางการตลาด รวมถึงมียอดขายได้ตามเป้า จนพาให้เทสลานั้นกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกได้

ในระหว่างที่มีการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและปรับปรุงยอดขาย นายมัสก์จะไม่ได้รับการการันตีใดๆ เรื่องรายได้ โดยเขาจะไม่ได้รับเงินเดือน ไม่ได้รับโบนัสเงินสด หรือเงินปันผลจากมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นตามระยะเวลา

นอกจากนั้น ข้อตกลงของคณะกรรมการผู้ถือหุ้นเทสลายังระบุด้วยว่า ทุกครั้งที่บริษัทเทสลาสามารถทำเงินงอกเงยแตะ 50,000 ล้านดอลลาร์ นายอีลอน มัสก์ จะได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินจำนวน 1% จากมูลค่าทางการตลาดของบริษัท แต่ถ้าหากว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งหมดนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง เขาก็จะไม่ได้รับส่วนแบ่งทางผลประโยชน์ใดๆ เลย

หากว่านายมัสก์ต้องการทำรายได้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว เขาจะต้องทำให้มูลค่าหุ้นของเทสลาเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอีกอย่างน้อย 1,300 เปอรืเซ็นต์ หรือทำให้มูลค่าทางการตลาดของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 53,400 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ไปแตะที่ตัวเลข 6.5 แสนล้านดอลลาร์ให้ได้

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าทางผู้ถือหุ้นบริษัทต้องการที่จะให้นายอีลอน มัสก์ ทำงานกับเทสลาต่อไปในระยะยาว แต่หลายฝ่ายก็แสดงความคิดเห็นไปในเชิงที่ว่า ข้อตกลงดังกล่าวอาจจะทำให้นายอีลอน มัสก์ ไม่มีแรงบันดาลใจในการทำงานอย่างที่ควรจะเป็น

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายกลับมองว่าการกำหนดจ่ายค่าตอบแทนนายอีลอน มัสก์ ในรูปแบบแพ็คเกจในลักษณะนี้อาจเป็นข้อตกลงที่มูลค่าสูงเกินไป