ต่างประเทศ
เมาจนซวย! ศาลปล่อยตัวผู้ต้องขัง หลังดื่มหนักขาดสติ จนส่งอีเมลขู่ฆ่า ‘อาร์เดิร์น’
ไมเคิล ครูกแชงก์ ถูกตัดสินโทษจำคุก 12 เดือน เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากการส่งอีเมลหลายฉบับ ที่มีเนื้อหาขู่จะใช้ความรุนแรงแก่อาร์เดิร์น อย่างไรก็ดี ครูกแชงก์โต้แย้งว่าตนได้ส่งข้อความไปในขณะที่เมา และตนจำไม่ได้ว่าตัวเองได้ส่งข้อความขู่ และไม่มีเจตนาในการทำให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น และไม่คาดว่าผู้รับอีเมลจะนำมาเป็นเรื่องจริงจัง อย่างไรก็ดี ในวันนี้ (18 ต.ค.) ศาลอุทธรณ์ได้กลับคำพิพากษาใหม่ พร้อมระบุว่าการตัดสินคดีดังกล่าวเกิดความผิดพลาด และสั่งให้มีการปล่อยตัวครูกแชงก์
การพลิกคำพิพากษาเดิมของศาล พิจารณาบนฐานเรื่องความมึนเมาของครูกแชงก์ และคณะลูกขุนเชื่อว่า การส่งอีเมลขู่ของครูกแชงก์ไปยังนายกรัฐมนตรี เกิดขึ้นจากความมึนเมาของจำเลย ทั้งนี้ ครูกแชงก์ได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในตอนแรกว่า “พูดแบบตรงๆ ที่สุดเลยนะ ผมจำไม่ได้เลยว่าส่งอีเมลอะไรไป… ผมเมาเละ มันเลยน่าจะเป็นไปได้ว่าผมน่าจะส่งมัน”
เพื่อให้คณะลูกขุนตัดสินว่าครูกแชงก์มีความผิดจริง อัยการต้องแสดงหลักฐานให้คณะลูกขุนเห็นว่า ครูกแชงก์ไม่ได้มีเพียงแต่เจตนาขู่ฆ่า และมีเจตนาที่ต้องการจะให้ผู้รับจดหมายรู้สึกได้ว่าอีเมลดังกล่าวเป็นเรื่องจริงจัง “จำเลยอย่างคุณครูกแชงก์ ไม่มีความทรงจำถึงการส่ง (คำขู่ฆ่า) แต่ถ้าหากเขาส่งมันไป เขาก็ขาดความตั้งใจเป็นพื้นฐานด้วยเหตุของความมึนเมา ไม่มีประเด็นอื่นใดเป็นใจกลางของปัญหานอกจากความมึนเมาของจำเลย” ไซมอน ฟรานซ์ ผู้พิพากษาอ่านคำตัดสินของศาลอุทธรณ์
ศาลตัดสินว่า “ความมึนเมาสามารถนำมาพิจารณา ในการประเมินว่าจำเลยมีเจตนาตามคำร้องหรือไม่” และเนื่องจากไม่มีคำร้องอย่างชัดเจน คณะลูกขุนจึง “ยกผลประโยชน์บนเหตุแห่งความสงสัยให้แก่จำเลย หากคุณครูกแชงก์อยู่ในสภาพสติมึนเมา” ด้วยการพิจารณาดังกล่าว ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินให้ครูกแชงก์ไม่มีความผิดฐานขู่ฆ่าอาเดิร์น
คำขู่ฆ่าในอีเมล 88 ฉบับของครูกแชงก์ที่ถูกส่งมาถึงอาร์เดิร์น ผ่านทางสำนักนายกรัฐมนตรี กินเวลานานกว่า 4 เดือน โดยครูกแชงก์เรียกตัวเองว่าเป็นอาชญากรและผู้ก่อการร้าย ทั้งนี้ จากคำตัดสินเดิม ศาลได้ชี้ว่า พฤติกรรมของครูกแชงก์เป็นการ “โจมตีรากฐานทางประชาธิปไตยของเรา” ที่เกิดขึ้นผ่านการขู่ฆ่าที่มุ่งเป้าไปยังนายกรัฐมนตรี
เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา มีการส่งคำขู่มายังอาร์เดิร์นเพิ่มมากขึ้นกว่า 3 เท่าตัว ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา โดยตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานของคดีว่า คำขู่ที่เพิ่มมากขึ้นต่อนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เกิดขึ้นจากกลุ่มทฤษฎีสมคบคิด และการโจมตีเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในนิวซีแลนด์
จากข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยผ่านทาง Newshub ระบุว่า ภายใต้พระราชบัญญัติข้อมูลทางการชี้ว่า ในปี 2564 ตำรวจพบกับกรณีการส่งคำขู่ต่อนายกรัฐมนตรีกว่า 50 ครั้ง เพิ่มขึ้นมาจาก 32 ครั้งในปี 2563 และ 18 ครั้งในปี 2562 ในขณะที่ตำรวจไม่สามารถหาแรงจูงใจในทุกคำขู่ได้ แต่เอกสารระบุว่า กลุ่มต่อต้านการฉีดวัคซีนเป็นแนวคิดหลักที่ขับเคลื่อนให้มีผู้ส่งจดหมายขู่มายังอาร์เดิร์นหลายฉบับ รวมถึงกลุ่มที่เห็นค้านกับกฎหมายการควบคุมอาวุธปืนของนิวซีแลนด์ ภายหลังจากเหตุกราดยิงมัสยิดไครสต์เชิร์ชเมื่อปี 2562 ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการส่งจดหมายขู่ฆ่ามายังอาเดิร์นด้วย
ทั่วทั้งรัฐสภาของนิวซีแลนด์ ส.ส.หลายคนเข้าแจ้งความหลังเจอกรณีการล่วงละเมิด ด่าทออย่างเสียหาย และการข่มขู่ โดยเฉพาะ ส.ส.ผู้หญิงชาวเมารี โดยจากข้อมูลของพระราชบัญญัติข้อมูลทางการ ที่ได้รับการเผยแพร่โดยตำรวจระบุว่า มีการขู่คุกคามต่อ ส.ส.นิวซีแลนด์พุ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา
ที่มา:
