วันที่ 20 ก.ค. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร คญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล มนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย อภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือ เครือข่าย 3 ป.

โดยได้ระบุถึง การแพร่ระบาดของยาเสพติดในไทยทวีความรุนแรงอย่างรวดเร็ว ไม่มีทีท่าว่ากฏหมายหรือนโยบายของรัฐบาลจะยับยั้งได้ กลับปล่อยปละละเลย กระทั่งผู้ติดยาเสพติดอายุน้อยลงเรื่อยๆ และเพิ่มขึ้น 81% คิดเป็นอันดับสองของโลก คนมีสี เครือข่ายนักการเมือง อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกให้ขนส่งยาเสพติดเข้าสู่ประเทศได้ง่ายขึ้น ผ่านการลักลอบเข้าทางตะเข็บชายแดน โดยเฉพาะกลุ่มจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 

ตลอดเวลาที่ 3 ป. บริหารประเทศมาเกือบ 8 ปี ตอกย้ำวงจรอุบาทว์ของการรัฐประหาร การยึดอำนาจจากรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เคยทำให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง หรือทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี แม้จะได้รับการพิสูจน์มาครั้งแล้วครั้งเล่า วันนี้ท่านได้เดินย้อนศรสังคมประชาธิปไตย บางท่านยังมีส่วนในการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง แต่ยังลอยหน้าลอยตาในสังคม แม้กฏหมายจะเอาผิดท่านไม่ได้ แต่กฏแห่งกรรมจะตามท่านทันแน่นอน

“ท่าน (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นคนมีศักดิ์ศรี เป็นถึงหัวหน้าพรรคใหญ่ เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล มียศเป็นถึงพลเอก แต่ท่านยังปกครองผู้กอง (ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย) ไม่ได้เลย ยังต้องย้ายไปตั้งพรรคใหม่ แล้วท่านจะบริหารประเทศชาติได้อย่างไร ท่านมีส่วนสำคัญที่ให้ประเทศชาติไม่เจริญ” มนพร กล่าว

มนพร กล่าวต่อไปว่า ขอให้ท่านได้จดจำสิ่งที่รัฐบาลนี้ ได้ร่วมกันเข่นฆ่าอนาคตของสังคมไทย ทำลายสังคมที่อบอุ่น ระบบรัฐสภาบิดเบี้ยวตกต่ำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ส.ส.ถูกประณามจากสังคมภายนอก ว่าทำลายอุดมการณ์ตัวเอง ยืนยันว่าประชาชนจะร่วมกันพิพากษาพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นนั่งร้านของ พล.อ.ประยุทธ์ ในวันเลือกตั้ง 

“ยาเสพติด เลวร้าย เกินแก้ไข การเมืองทรุดต่ำ ระยำใจ ปล่อยเปรต ประวิตร ประยุทธ์ไป ไทยเจริญ พรรคเล็กๆ ทั้งหลาย ท่านอย่าไปสนใจว่าจะได้กล้วยกี่หวี เพราะดิฉันมีกล้วยอยู่ตรงนี้” มนพร กล่าว

จากนั้น มนพร ได้ชูผลกล้วยขึ้นมากลางสภาฯ และกล่าวว่าใครอยากได้กล้วยมารับที่ตนได้เลย

ระหว่างนั้น คารม พลพรกลาง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประท้วงโดยระบุว่า คำว่าพรรคร่วมรัฐบาลร่วมกันเข่นฆ่าอนาคตของสังคมไทย ถือเป็นการใส่ร้าย จึงขอให้ถอน โดย สุชาติ ตันเจริญ รองประธานผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุม ระบุว่า ตนไม่ทันได้ยิน ขอฟังอีกครั้งชัดๆ ทั้งประโยค ซึ่ง มนพร อธิบายว่า คำว่าเข่นฆ่า สื่อถึงพิษภัยของยาเสพติด

'ประวิตร’ ไล่ฝ่ายค้านช่วยตำรวจจับยาเสพติด

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ชี้แจงประเด็นของปัญหายาเสพติด ที่รัฐบาลถือว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เพราะเป็นมหันตภัยร้ายแรง ทำลายครอบครัว ก่อปัญหาอาชญากรรม รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ โดยได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติด เสนอขั้นตอนการรักษาผู้เสพและผู้ติดว่าเป็นผู้ป่วย ตนได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการไปพลางระหว่างรอกฏหมายลูกแล้วเสร็จ

พร้อมกันนั้นได้ร่วมมือกับภาคประชาสังคมเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย เช่น สายด่วย 1507 และภาคีเครือข่าย ส่งตัวผู้ป่วยสู่สถานพยาบาลเพื่อบำบัดรักษา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ประกอบสัมมาชีพ เพื่อคืนคนดีสู่สังคมได้ มีการปราบปรามและจับกุมเครือข่ายยาเสพติดอย่างเด็ดขาดแทบทุกวัน

“ผมฟังท่าน ส.ส.ที่ได้พูดเมื่อกี้นี้ ท่านเคยไปกับการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ผมอยากให้ไปร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ เพื่อจะได้จับกุมได้มากขึ้น ไม่ใช่มาพูดอย่างนี้ ไม่เช่นนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาของผมจะเสียกำลังใจ” พล.อ.ประวิตร กล่าว

จากนั้น จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกแจ้งเตือนว่ าสัดส่วนเวลาของรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงเวลาของประธานฯ ได้หมดลงและเกินไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ตนจึงเตือนด้วยความหวังดี เพราะหากใช้เวลาอย่างมากเช่นนี้ เวลาของฝ่ายค้านจะเหลือไม่ถึง 11 ชั่วโมง ก่อนเวลา 00.30 น. จึงจะส่งผลให้เวลาชี้แจงของรัฐบาลในวันต่อไปจะลดน้อยลง เนื่องจากเวลาหลัง 00.30 น. ลงไปจึงจะเป็นเวลาการชี้แจงของรัฐมนตรี 

ท้ังนี้ สุชาติ ชี้แจงว่า ตามข้อตกลงว่าฝ่ายค้านจะใช้เวลา 45 ชั่วโมง เฉลี่ยวันละ 11 ชั่วโมง ทำให้รัฐบาลเหลือเวลาตอบช่วงกลางอีก 5-6 ชั่วโมง จากนั้นหลัง 00.30 น. ก็สามารถชี้แจงได้ ตนยังเคยเตือนฝ่ายรัฐบาลว่าเหตุใดไม่ปล่อยให้เป็น 5 วันไปเลย จะได้ไม่มีข้อจำกัด แต่ในเมื่อยืนยันว่าจะ 4 วัน ก็ต้องเป็นไปตามนั้น จากนั้นจึงขอร้องให้สมาชิกฯ อย่าประท้วงกันมาก