วันที่ 3 ก.ค. 2566 ที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ ที่ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรตก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแกนนำของทั้งสองพรรค ร่วมกันแถลงข่าวถึงการเสนอชื่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร
โดย พิธา กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล มีมติเสนอชื่อ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยให้ ส.ส. จากพรรคก้าวไกล เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 และให้ ส.ส. จากพรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 2 โดยอีก 6 พรรคที่เหลือพร้อมให้การสนับสนุน บุคคลที่จะปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ พร้อมผลักดันวาระที่ทำให้รัฐสภาไทยก้าวหน้า ให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ และเป็นของประชาชน
ข้อตกลงเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯในครั้งนี้ เป็นไปเพื่อสร้างความเป็นเอกภาพระหว่าง 8 พรรคในการจัดตั้งรัฐบาล เสนอและสนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างสุดความสามารถ ตามเจตนารมณ์ที่ได้ร่วมลงนามใน MOU
พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ยืนยันร่วมกันให้ความเห็นชอบกฎหมายสำคัญเพื่อประชาชน ซึ่งรวมถึงการนิรโทษกรรมคดีแสดงออกทางการเมือง และการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ร่างพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก และร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ได้ส่งเลขาธิการพรรค และตัวแทน ไปพูดคุยกับ วันมูหะมัดนอร์ ที่บ้านพักเมื่อคืนวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมาแล้ว รวมถึงได้พูดคุยหลังร่วมรัฐพิธีที่สภา และได้อ่านแถลงการณ์ดังกล่าวให้ วันมูหะมัดนอร์ ฟังแล้ว
ด้าน ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส่วนตัวได้ไปหารือกับ วันมูหะมัดนอร์ ที่เสนออยากให้มาเป็นคนกลาง แต่ วันมูหะมัดนอร์ ตอบกลับว่า ส่วนตัวไม่อยากเป็น หากคุยกันและเร่งหาทางออกก่อนวันที่ 4 ก.ค. จะดีที่สุด และส่วนตัวได้เสนอเพิ่มเติมไปอีกว่า อยากให้ วันมูหะมัดนอร์ มาเป็นคนกลาง จึงได้กลับมาแจ้งกับแกนนำทั้งสองพรรค เพื่อหาทางออกให้รัฐบาลประชาธิปไตยโดยเร็ว
ขณะที่ ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เผยว่า หัวหน้าพรรคได้มอบหมายให้ตนเองไปพูดคุยกับ วันมูหะมัดนอร์ เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งได้พูดคุยกันเป็นเวลานาน ถึงความมั่นใจและความคาดหวังในการทำหน้าที่ประธานสภาฯ
พิธา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสัมภาษณ์ของ วันมูหะมัดนอร์ ได้ย้ำถึง หลักการยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง รวมถึงหากเป็นความต้องการของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ก็พร้อมรับตำแหน่งนี้
อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ได้ประชุมหารือถึงแนวทางการลงมติ พร้อมทั้งได้กำชับ ส.ส. ในพรรค เพื่อให้การโหวตในวันพรุ่งนี้ ( 4 ก.ค. 2566) อย่างไม่แตกแถว
ขณะที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม และกฎหมายสุราก้าวหน้า พิธา ชี้แจงว่า ได้หารือกับ วันมูหะมัดนอร์ ซึ่ง วันมูหะมัดนอร์ ระบุว่า ให้เป็นไปตามกระบวนการเหมือนกฎหมายอื่นๆ แต่พรรคประชาชาติจะขอสงวนสิทธิ์ในการลงมติและงานพิจารณากฎหมาย 2 ฉบับดังกล่าว และเชื่อว่าจะมีรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนอื่นสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งตนต้องรักษามารยาทให้ วันมูหะมัดนอร์ มาตอบคำถามนี้เอง แต่ตนชี้แจงเท่าที่ได้ยินมา
พิธา ยังยืนยันว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีในขั้นตอนต่อไป จะเป็นไปตามเป้าหมาย ส่วน เสียง ส.ส. ที่ขณะนี้ยังไม่เพียงพอในการโหวตเลือกตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ได้ไปคุยกับ ส.ว. แล้ว และเชื่อว่าเมื่อถึงเวลา ถ้ายึดตามหลักการเหมือนปี 2562 ที่โหวตให้นายกรัฐมนตรีที่รวบรวมเสียงข้างมากได้เกินกึ่งหนึ่งก็จะไม่มีปัญหา พร้อมย้ำว่า ไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคล แต่เป็นเรื่องของบรรทัดฐาน
พิธา ยังยอมรับว่า ได้วางแผนหากเสียงสนับสนุนไม่เพียงพอให้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เชื่อว่าเสียงสนับสนุนยังถึงอยู่ พร้อมยืนยันว่า จะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว และเชื่อใจในพรรคเพื่อไทย แม้ที่ผ่านมาจะมีสูตรการจัดตั้งรัฐบาล แต่มองว่าสูตรนั้นคิดได้หลายแบบ
ทำให้ นพ.ชลน่าน ขอชี้แจง ว่า ส่วนตัวมั่นใจคนในเพื่อไทยจะไม่เสนอชื่อประธานสภาฯ และนายกฯ แข่งแน่นอน และมั่นใจว่าพรรคอื่นก็จะไม่เสนอชื่อแข่งเช่นกัน โดนได้พูดคุยกับสมาชิกทุกคนแล้ว และทุกคนเข้าใจ พร้อมย้ำอีกครั้ง ว่าจะไม่มีการเสนอชื่อแข่ง
ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวจะเสนอชื่อ สุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานสภาฯ นั้น นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า ในหลักการไม่มีการเสนอชื่อแข่งอย่างแน่นอน
พิธา ยังกล่าวช่วงท้ายของการแถลงข่าวว่า โควตารัฐมนตรี จะพูดคุยกันหลังจากนี้ พร้อมย้ำว่า 8 พรรคเหนียวแน่นกันมาตลอด และจะเหนียวแน่นกันต่อไป พร้อมทั้งจะแสวงหาความเป็นเอกภาพในการทำงานร่วมกัน
'พิธา-ชัยธวัช' สื่อสารผิดพลาด ปมเชิญ 8 พรรคร่วมแถลง
โดยก่อนที่สองพรรคจะแถลงข่าวนั้น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งเดินทางมาถึงโรงแรมแลงคาสเตอร์ ชี้แจงถึงกรณีที่ยกเลิกการแถลงข่าวร่วมกัน 8 พรรคร่วมรัฐบาลโดยเหลือเพียง พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ว่า เป็นเรื่องของการประสานงานที่ผิดพลาด และชี้แจงว่า ขณะอยู่ที่รัฐสภา ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับทั้ง 8 พรรคร่วมรัฐบาล และได้ชี้แจงกรณีนี้แล้ว เมื่อถามว่าภารกิจการสรรหาประธานสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้วหรือไม่ พิธา กล่าวเพียงว่า ให้รอฟังการแถลงข่าว
ด้าน ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยอมรับว่า เป็นการสื่อสารผิดพลาด กรณีได้เชิญ 8 พรรคร่วมมาแถลงข่าวด้วยกัน แต่ก่อนหน้านี้ได้หารือกับทางพรรคเพื่อไทยแล้วว่า จะเป็นการแถลงข่าวระหว่าง 2 พรรคคือพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล เพราะมองว่าเป็นข้อสรุประหว่าง 2 พรรคจึงควรเป็นการพูดคุยภายในดีกว่า
เมื่อถามว่าจะไม่เป็นการขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ชัยธวัช ระบุว่า ไม่เป็นไร ทุกพรรคทราบ และไม่มีการผิดใจกัน