นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ กล่าวว่า จากการติดตามความก้าวหน้าการบริหารจัดการน้ำควบคุมความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปา ว่า ได้ให้ สทนช. กรมชลประทาน การประปานครหลวง และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เร่งรัดติดตามผลการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำแก้ปัญหาค่าความเค็มในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาใหญ่ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภค - บริโภคของประชาชนด้วยการเพิ่มการระบายน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองผ่านคลองมหาสวัสดิ์ปริมาณ 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือเพิ่มการระบายอีก 500 ล้านลูกบาศก์เมตรไปจนถึงเดือน มิ.ย. นี้
เพื่อมาช่วยผลักดันความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา ควบคู่กับใช้มาตรการอื่นๆ คือ การบริหารจัดการอาคารชลประทานให้สัมพันธ์กับช่วยงเวลาน้ำขึ้นน้ำลง โดยหน่วงน้ำในพื้นที่ด้านบนบริเวณหน้าเขื่อนทดน้ำเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ด้วยการปิดหรือเปิดบานระบายให้สัมพันธ์กับช่วงเวลาน้ำขึ้น - น้ำลง สอดคล้องการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ด้านท้ายแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ฯ จังหวัดสมุทรปราการ ที่จะปิดประตูระบายน้ำช่วงเวลาน้ำขึ้น เพื่อไม่ให้น้ำเค็มรุกเข้ามาในแม่น้ำ แล้วจะเปิดบานระบายน้ำช่วงเวลาน้ำลงเพื่อเร่งระบายน้ำหรือการกระแทกน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาให้ไล่น้ำเค็มออกสู่ทะเลโดยเร็ว
สำหรับแผนแก้ปัญหาระยะยาว สทนช. ได้ให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาดำเนินโครงการศึกษาเพื่อจัดทำแผนหลักการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำกลุ่มลุ่มน้ำเจ้าพระยาใหญ่ ประกอบด้วย ลุ่มน้ำสาละวิน โขงเหนือ ปิง วัง ยม น่าน เจ้าพระยา ท่าจีน สะแกกรัง และป่าสัก ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งแผนดังกล่าวสอดคล้องกับแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ 20 ปี