นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช. )กล่าวว่า สทนช.ได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำช่วงฤดูฝนปีนี้ต่อเนื่องด้วยการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม แนวทางเงื่อนไขการแจ้งเตือน โดยเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานด้านน้ำของประเทศร่วมกัน และกำหนดเกณฑ์การปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการรับมือสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝนตามระดับความรุนแรงและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเมื่อมีพายุก่อตัว และคาดว่าจะมีผลกระทบต่อประเทศไทยหรือความกดอากาศต่ำพาดผ่าน
มีปริมาณฝนตกชุกหนาแน่นครอบคลุมหลายจังหวัดคิดเป็นปริมาณฝนสะสม 3 วันมากกว่า 200 มิลลิเมตร ปริมาณน้ำในลำน้ำมากกว่าร้อยละ 60 ของความจุลำน้ำ และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมากกว่าร้อยละ 60 และมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องหรือสูงกว่าเส้นควบคุม โดยศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติจะเริ่มปฏิบัติงานทันทีประมาณกลางเดือน ก.ค. นี้เพื่อให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติการป้องกันเฝ้าระวังและลดความเสียหายทั้งด้านชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน
สทนช.และกระทรวงมหาดไทยร่วมกันเพิ่มประสิทธิภาพกลไก 4 ด้าน รับมือสาธารณภัยจากวิกฤติน้ำตามหลักสากล การจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติ คือ ด้านป้องกันและลดผลกระทบการบริหารจัดการและจัดสรรน้ำตามเกณฑ์อย่างเหมาะสมในภาวะปกติ ด้านเตรียมความพร้อมการกำหนดเขตภาวะน้ำแล้งล่วงหน้า และแผนเตรียมกรณีน้ำท่วมฉุกเฉิน ด้านรับมือหรือเผชิญเหตุ การประกาศเขตภาวะน้ำแล้งอย่างรุนแรงและมาตรการการผันน้ำข้ามลุ่มเพื่อบรรเทาภาวะน้ำแล้ง และสุดท้ายด้านฟื้นฟูเยียวยาชดเชยเยียวยารวบรวมข้อมูลความเสียหายพื้นที่วิกฤติน้ำวางแผนการป้องกันและแก้ไขระยะยาว