อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับมอบหนังสือ การรวบรวม 6,000 รายชื่อ สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ จากสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย พร้อมกับระบุว่า รายชื่อทั้ง 6,000 รายชื่อถือเป็นการสนับสนุน ว่า กัญชากัญชงมีประโยชน์หากเราใช้ในทิศทางที่ถูกต้อง นำมาใช้ในทางการแพทย์ ทางสุขภาพ และการส่งเสริมเศรษฐกิจ ซึ่งหลังจากนี้กระทรวงสาธารณสุขจะได้หาช่องทางความร่วมมือกับนักวิจัย ในการขับเคลื่อนนโยบายกัญชงกัญชา สิ่งใดที่สนับสนุนเกื้อกูลข้อมูลกันได้ วิจัยข้อมูลต่างๆร่วมกัน ก็จะทำให้ความน่าเชื่อถือมากขึ้น และประชาชนจะได้รับประโยชน์

ส่วน 6,000 รายชื่อนั้นจัดส่งผลต่อการประชุมบอร์ด คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ให้กัญชากลับมาเป็นยาเสพติดหรือไม่นั้น อนุทิน กล่าวว่า ไม่มี เนื่องจากกัญชาไม่ใช่ยาเสพ สิ่งที่เป็นยาเสพติดอยู่ขณะนี้คือสารสกัดจากกัญชา ที่มีค่า THC มากกว่า 0.2% เพราะฉะนั้นประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ที่ว่าด้วยการควบคุมพืชสมุนไพร ที่ประกาศออกมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับทางปปส และไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับคณะรัฐมนตรี เนื่องจากประกาศนั้นไม่ใช่กฎกระทรวง

และให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะเป็นผู้รักษากฎหมาย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพืชสมุนไพร ได้ใช้อำนาจของรัฐมนตรีในการประกาศมาตรการต่างๆออกมา ซึ่งรัฐมนตรีก็ได้ใช้อำนาจไปแล้ว และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการประกาศลงราชกิจจานุเบกษา ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเราทำงานเพียง 2 วันเนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งไปตื่นตระหนกตกใจว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า เพราะเป็นช่วงประชุมเอเปค ข้าราชการและคณะรัฐมนตรีทุกคนก็มีภารกิจที่จะรับแขกบ้านแขกเมือง

ทั้งนี้ อนุทิน ยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย รัฐมนตรี ผู้ที่รักษากฎหมายลงนามในประกาศกระทรวง ที่รัฐมนตรีผู้นั้นรับผิดชอบแล้ว ถือว่าได้ใช้อำนาจไปเรียบร้อยแล้ว ตัดตอนไปแล้ว ใครเข้ามาร่วมด้วยก็ต้องถือว่าต้องร่วมรับผิดชอบด้วยกัน คงไม่ได้เป็นนัยยะออกมาในทิศทางนั้น

เมื่อถามย้ำว่า อำนาจของ ป.ป.ส. สามารถดึงกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดได้หรือไม่ อนุทิน อธิบาย ว่า ป.ป.ส.ประกอบไปด้วย กรรมการโดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน แต่ในกรณีนี้นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานแทน ถือว่าชุดนี้เป็นผู้ประกาศให้กัญชา ไม่เป็นยาเสพติด ยกเว้นสารสกัดที่มี THC มากกว่า 0.2% แล้วจะถ่มน้ำลายรดฟ้าได้อย่างไร

พร้อมกับยืนยันว่า เรื่องนี้ตนไม่ต้องคุยกับนายวิษณุ แต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ในข้อที่ 4 ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วน เนื่องจากจะต้องไปศึกษาวิจัยสนับสนุนให้เกิดประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและการแพทย์ ซึ่งมีความชัดเจนอยู่ในนโยบายของรัฐบาล ไม่ได้ทำเกินด้วยซ้ำ ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการสนับสนุนด้านนันทนาการหรือสันทนาการไปอย่างไร

หากใครยังกังวลห่วงใย หรืออ้างกันนักหนาว่าห่วงใยเยาวชนหรือการใช้ไปในทิศทางที่ผิด ก็ออกกฎหมาย ออกพ.ร.บกัญชาให้เรียบร้อย เพิ่มเติมตัดต่อเสนอแนะ ทำได้หมดเนื่องจากกรรมาธิการประกอบด้วย ตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรค ตัวแทนข้าราชการผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องการใช้กัญชงกัญชา หากเป็นห่วงก็ต้องออกกฎหมายเท่านั้นเองไม่มีทางเลือกอื่น