วันที่ 12 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงข้อเสนอการแก้ไขปัญหายาเสพติด ก่อนเข้าร่วมประชุมเพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงฯ จะนำเสนอเรื่องการคัดกรองผู้ป่วย ส่วนรองอธิบดีกรมสุขภาพจิต จะรายงานเรื่องการเยียวยารักษาด้านสุขภาพจิต ส่วนที่จะนำผู้ติดยาเข้าบำบัดนั้นกระทรวงสาธารณสุขเป็นฝ่ายสนับสนุนโดยกรมการแพทย์ ก็มีสถาบันธัญญารักษ์ เป็นแม่ข่ายในการบำบัดและรักษาผู้ป่วยยาเสพติด รวมถึงโรงบาลในทุกจังหวัดก็พร้อมให้การรักษาหากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองส่งตัวผู้ป่วยมา ทั้งนี้ หากผู้ติดยาเสพติดมีอาการมากก็จะมีการส่งไปตามสถานพยาบาลที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการบำบัด

เมื่อถามว่า การรับมือผู้บำบัดจากนี้ ภายหลังให้ผู้นำชุมชนเข้าไปค้นหา รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า อาการผู้ติดยาหากเบาก็จะใช้การบำบัดรักษาและใช้วิธีการทำความเข้าใจให้ความรู้ แต่ถ้าอาการหนักก็จะให้การรักษาทางการแพทย์ตามขั้นตอน

เมื่อถามต่อว่า หลังเกิดเหตุการณ์ที่ จ.หนองบัวลำภู จะมีการทบทวน พ.ร.บ.กัญชา บ้างหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า เรื่องยาบ้าเป็นยาเสพติด กัญชาวันนี้ไม่ใช่ยาเสพติด กัญชาทางคณะกรรมการ ป.ป.ส. ได้ถอดออกจากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 5 แล้ว สิ่งที่เหลือจากกัญชาที่เป็นยาเสพติด ก็คือสารสกัดที่มีสารทีเอชซี ไม่เกิน 0.2% ขออย่าไปผูกกันคนละเรื่องกัน

ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ อนุทินและคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ไม่สวมใส่หน้ากากอนามันกันหมด ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนว่าสามารถใช้ชีวิตได้ปกติใช่หรือไม่ อนุทิน หันกลับไปมองคณะผู้บริหารกระทรวงฯ ที่ยืนอยู่ข้างหลังก่อนระบุว่า มันดีเดย์ตั้งแต่ 1 ต.ค.แล้วไม่ใช่หรือ และตอนนี้เราอยู่ในอากาศที่โล่งแจ้งและทุกคนก็ฉีดวัคซีน โดยในส่วนสาธารณสุขก็ฉีด 5 เข็มและไม่มีความเสี่ยง รวมถึงสื่อมวลชนก็ใส่หน้ากากพร้อมยืนห่างกันเกินเมตรครึ่ง แต่ถ้าในสถานที่ปิดซึ่งเป็นห้องประชุมทุกคนตรวจเอทีเคกันหมดแล้ว เราก็ต้องใช้ระบบเชื่อถือซึ่งกันและกัน และเราประชุมกับผู้กลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ทุกท่านก็ตรวจเอทีเค ซึ่งหากหากรู้สึกว่าใครมีอาการก็ใส่หน้ากากทำนองนี้เป็นต้น 

จากนั้น อนุทิน ชี้มาที่สื่อบางช่องก็ยังไม่ใส่เลย พร้อมถามสื่อมวลชนว่า ฉีดวัคซีนกี่เข็มแล้ว