วันที่ 6 พ.ค. 2566 ที่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้เกมของพรรคเพื่อไทยต่อกระแสของพรรคก้าวไกลที่มีผลโพลระบุมาแรง ว่า คงไม่มีอะไรต้องแก้เกม เพราะว่าโพลของพรรคเพื่อไทยกระแสก็มาดี เรายังมั่นใจอยู่ว่าจะได้ ส.ส.เกินครึ่งของสภาฯ ส่วนผลโพลที่ระบุถึงพรรคก้าวไกลนั้นก็เป็นแค่กระแส เพราะเวลาลงพื้นที่โพลของเราก็มี ตนไม่แน่ใจว่าโพลจะมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนหรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับพรรคและนโยบายขึ้นอยู่กับผู้นำ
“ขณะนี้ถึงเวลาที่จะมาเล่นๆ กันไม่ได้ แต่มันคือสนามของคนมีประสบการณ์ พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานว่า สามารถทำนโยบายที่เสนอเป็นจริงได้ ตรงนี้เป็นเรื่องที่เราต้องยอมรับต่อไป อีกทั้งหลายโพลก็สำรวจเพียง 1,000-2,000 ตัวอย่าง เราควรเอาโพลที่สำรวจเป็นแสนคนมาเป็นตัวชี้วัดดีกว่า” เศรษฐา ระบุ
เมื่อถามว่า กระแสของพรรคก้าวไกล สู้ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ เศรษฐา ระบุว่า สู้ไม่ได้ เรามั่นใจในฐานเสียงและนโยบายของพรรค มั่นใจในความเป็นสถาบันพรรคการเมืองพิสูจน์ให้เห็นว่าเราสามารถทำได้จริง ส่วนจะทำให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์หรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่ว่าแลนด์สไลด์หมายความว่าอะไร แต่ถ้า 200 เสียงกลางๆ ยังเชื่อว่าทำได้อยู่ และยังคิดว่าได้ถึง 280 เสียง ตนมั่นใจ ส่วนจะถึง 300 เสียงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการหาเสียงโค้งสุดท้าย
เมื่อถามว่าประเมินอย่างไรในโค้งสุดท้าย ที่พรรคก้าวไกลมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น เศรษฐา ระบุว่าเป็นเรื่องของโซเชียลมีเดียด้วยส่วนหนึ่ง และอาจเป็นช่วงที่ผลโพลออกมา เพราะโพลสำรวจก็มีแค่ 2,000-2,500 คน ประเทศไทยมีประชากรโหวตได้ 39 ล้านคน ใจเย็นๆ ขอให้รอวันเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.นี้
เมื่อถามว่า กระแสโพลที่เทให้กับพรรคก้าวไกล เป็นเพราะแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยยังไม่มีความชัดเจนหรือไม่ เศรษฐา มองว่าไม่น่าใช่ประเด็น แต่แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย น่าจะเป็นจุดแข็งมากกว่า อีกทั้งพรรคเพื่อไทยก็ยังมีทีมไทยแลนด์ที่แข็งแกร่ง โดยแคนดิเดตนายกฯ ทั้งสามคนมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน โดยขอให้ใจเย็นๆก่อนรอผลเลือกตั้งก่อน โดยช่วงโค้งสุดท้ายก็จะเน้นนำเสนอนโยบายต่อทุกกลุ่มต่อไป ซึ่งนโยบายที่นำเสนอจะต้องมีความเหมาะสมเมื่อมีการลงพื้นที่ด้วย
ขณะที่ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ยังมั่นใจในแนวทางของพรรคเพื่อไทย และโพลมีหลายสำนักซึ่งโพลภายในพรรคเพื่อไทย ก็ยังมีระดับความมั่นใจที่สูงอยู่ ยังแลนด์สไลด์เหมือนเดิม
ในส่วนพื้นที่นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยมั่นใจเป็นอย่างมาก และคาดว่าจะได้ ส.ส.เกือบทั้งหมด 16 เขต เพราะนโยบายของพรรคได้รับการตอบรับที่ดีมาก ทั้งนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท สิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ตัดสินใจ ดังนั้นนโยบายของพรรคเพื่อไทยยังเป็นสิ่งที่ชี้นำในการตัดสินใจของประชาชนได้อยู่
ประเสริฐ ยอมรับว่าการต่อสู้ใน จ.นครราชสีมา เป็นการแข่งขันกันระหว่าง พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย แต่เลือกตั้งรอบนี้พรรคเพื่อไทยมั่นใจ ในตัวนโยบายและผู้สมัครของพรรค รวมถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย