ต่างประเทศ
รัสเซียสังหารนักข่าวฝรั่งเศสในยูเครน ขณะกำลังรายงานปฏิบัติการอพยพ
เฟรเดริก เลคเลอร์ค-อิมฮอฟฟ์ วัย 32 ปี ผู้สื่อข่าวของ BFMTV เสียชีวิตลงขณะเข้ารายงานปฏิบัติการอพยพ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า เฟรเดริกได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณคอด้านหลัง จากการถูกยิงโดยกระสุนเจาะเกราะ ขณะที่เขากำลังเดินทางเข้ามายังพื้นที่ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้ มาซิม แบรนด์สแตทเทอร์ เพื่อนร่วมงานของเฟรดริกก็ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงด้วย
เฟรเดริกเดินทางเข้ามาทำข่าวสงครามยูเครนเป็นครั้งที่สอง ก่อนที่เขาจะถูกกองทัพรัสเซียสังหารลง ทั้งนี้ เขาทำงานให้กับ BFMTV มาแล้ว 6 ปี โดย BFMTV โพสต์ข้อความระบุไว้อาลัยถึงการเสียชีวิตของเฟรดริกว่า “มันคือเหตุการณ์โศกนาฏกรรม ที่ย้ำเตือนเราจากภยันตรายที่พวกเรากำลังเผชิญหน้าของนักข่าวทุกคน ผู้ที่ทำการรายงานความขัดแย้ง และเสี่ยงชีวิตของพวกเขามาตลอดระยะเวลามากกว่าสามเดือนที่ผ่านมา”
เจมส์ วอเทอร์เฮาส์ ผู้สื่อข่าวของ BBC News ระบุว่า มีภาพความเสียหายที่ถูกเปิดเผยออกมา หลังจากเหตุการณ์โจมตีรถที่เฟรดริกนั่งผ่านการโจมตี โดยภาพดังกล่าวถูกส่งต่อกันบนโลกออนไลน์ เผยให้เห็นรถที่เสียหายอย่างหนัก พร้อมกระจกหน้ารถที่แตกพังยับเยินและมีเลือดเปื้อนอยู่ข้างใน อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นยูเครนที่เดินทางมาพร้อมกับเฟรดริกไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ทวีตข้อความลงบนทวิตเตอร์ส่วนตัว เพื่อไว้อาลัยแด่การจากไปของเฟรดริก นักข่าวฝรั่งเศศที่ลงทำข่าวในพื้นที่สงครามยูเครน พร้อมกล่าวไปถึงผู้สื่อข่าวคนอื่นๆ ที่ลงรายงานสถานการณ์บริเวณแนวหน้าของการสู้รบว่า “ผมขอกล่าวย้ำถึงการให้การสนับสนุนอย่างไม่มีเงื่อนไขโดยฝรั่งเศส”
“ผู้สื่อข่าว เฟรเดริก เลคเลอร์ค-อิมฮอฟฟ์ ไปอยู่ในยูเครนเพื่อเปิดเผยความเป็นจริงของสงคราม บนรถบัสเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม พร้อมกับพลเรือนที่ถูกบังคับให้หลบหนี เพื่อหลบระเบิดของรัสเซีย เขาถูกยิงจนเสียชีวิต” มาครงระบุถึงการตายของเฟรดริก
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสได้ออกมาเรียกร้องขอให้มีการเปิด “การสืบสวนสอบสวนที่โปร่งใส” โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เพื่อหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฟรดริก
เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เบรนต์ เรอนัวด์ กลายเป็นผู้สื่อข่าวจากสหรัฐฯ รายแรกของโลกที่ถูกรัสเซียสังหาร ขณะลงรายงานสถานการณ์ในยูเครน หลังจากนั้น มีการสังหารผู้สื่อข่าวโดยรัสเซียตามมาอีกหลายราย ก่อนที่เฟรดริกจะกลายมาเป็นผู้สื่อข่าวรายล่าสุดที่เสียชีวิตลง
ที่มา:
