วันที่ 30 มิ.ย. ที่พรรคภูมิใจไทย อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตเลือกประธานสภาฯ ในวันที่ 4 ก.ค. นี้ ว่า โดยปกติแล้วเราจะทราบก่อนว่า แคนดิเดตประธานสภาฯ เป็นใคร ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เสนอผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานสภาฯ และพรรคภูมิใจไทยก็ไม่มีความลำบากใจมากในเรื่องนี้ ขอดูแคนดิเดตแต่ละพรรคที่จะเสนอขึ้นมา จากนั้นค่อยหารือกันในที่ประชุม โดยปกติแล้วก่อนที่จะมีมติอะไรที่รัฐสภาจะมีห้องให้พรรคการเมืองแต่ละพรรคได้ประชุมย่อยกันอยู่แล้วซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่อุปสรรคอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้พรรคก้าวไกลได้เสนอชื่อแคนดิเดตประธานสภาฯ อย่างชัดเจนแล้ว ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยจะชัดเจนได้เลยหรือไม่ เพราะพรรคก้าวไกลมีจุดยืนเรื่องการแก้ไข ม.112 อนุทิน กล่าวว่า เป็นไปตามแถลงการของพรรคภูมิใจไทยเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคที่เสนอแก้ไขหรือยกเลิก ม.112 ทั้งนี้ก็ต้องดูว่า พรรคใดจะเสนอแข่งอีกหรือไม่ ส่วนจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยนั้นก็ยังจะขอยึดตามแถลงการที่แถลงไว้ ส่วนมีพรรคใดมาขอเสียงสนับสนุนหรือไม่ ยืนยันว่า ไม่มี
ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยยอมยกตำแหน่งประธานสภาฯ ให้พรรคก้าวไกล แต่ในช่วงของการเลือกนายกรัฐมนตรี หาก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากทั้ง ส.ส. และ ส.ว. พรรคเพื่อไทยขอเสนอตั้งรัฐบาลเอง อนุทิน กล่าวว่า ขอให้มันเกิดขึ้นก่อน ตอนนี้ยังไม่ทราบว่า ใครจะถูกเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีหรือเสนอไปแล้ว และมติเป็นอย่างไร ขอให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นก่อน แต่พรรคภูมิใจไทยมีแนวทางอยู่ในใจแล้วและต้องดูว่า สถานการณ์ในวันนั้นเป็นอย่างไร
แต่สิ่งที่ให้ความมั่นใจได้คือ เราจะไม่เป็นอุปสรรคในการสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมือง ซึ่งต้องนึกถึงองค์รวมด้วย คือ 4 สถาบันหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยมั่นใจว่า แนวทางของพรรคจะต้องรักษาประโยชน์ให้กับชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นตัวเลือก พรรคภูมิใจไทยจะสนับสนุนในการทำงานของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า มันมีหลักการทางระบบรัฐสภาอยู่แล้ว หากเราเป็นฝ่ายรัฐบาลเราก็ต้องสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล หากเราเป็นฝ่ายค้านเราต้องทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านคือการตรวจสอบ ซี่งเป็นแนวทางที่ปฏิบัติกันมาอย่างยาวนานแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนมีความขัดแย้งเห็นรอยร้าวระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลมีแนวโน้มหรือไม่ที่พรรคภูมิใจไทยจะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง อนุทิน กล่าวว่า ความขัดแย้งของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล "นั่นพระแล้วเณรเกี่ยวอะไร" เณรไม่เกี่ยว เพราะเราไปรอส้มหล่นไม่ได้ ทำอะไรเรามีแผนอยู่แล้ว เราต้องมีแนวทางเป็นขั้นตอน แต่ว่า วันนี้เราไม่ได้เป็นพรรคอันดับหนึ่ง และอันดับสองเราก็พูดมาตลอดว่า พรรคภูมิใจไทยจะวางตัวให้เป็นไปตามมารยาททางการเมือง กติกามันไม่มีหรอกแต่มารยาทต้องมี และเราก็ทำตัวอยู่มารยาทของเรามาโดยตลอด วันนี้ก็ไม่มีข่าวเลยว่า พรรคภูมิใจไทยพยายามที่จะไปตั้งรัฐบาลหรือติดต่อใครให้เป็นอุปสรรคการดำเนินการของพรรคอันดับหนึ่งอันดับสอง
ส่วนกรณีที่ไปร่วมงานวันเกิด Voice TV และพบกับ พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อนุทิน กล่าวว่า เมื่อวานนี้ตนไปแสดงความยินดีกับ Voice TV เนื่องจากได้รับคำเชิญ โดยไปตั้งแต่เช้าก็นึกไม่ถึงว่าจะเจอ พานทองแท้ และได้มอบดอกไม้ให้กับผู้บริหาร หลังจากนั้นจึงเดินกลับก่อนที่จะพบกับ พานทองแท้ ที่กำลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็มีการทักทายกันปกติแต่ไม่มีเรื่องการเมือง