ไม่พบผลการค้นหา
'ภูมิธรรม​' เผย 2 อนุกรรมการศึกษาประชามติ-พิจารณาด้านกฎหมายเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ​ ทำงานคืบหน้า มองมีทิศทางที่ดี

วันที่ 24 ต.ค. ภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทาง ในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ 2560 เปิดเผยถึงความคืบหน้าการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ​ ว่า​ ขณะนี้การทำงานมีความคืบหน้าไปมาก​ โดยทั้งสองอนุกรรมการทั้งรับฟังความคิดเห็น และคณะกรรมการด้านกฎหมาย ก็ทำงานคืบหน้าไปเยอะมาก และขณะนี้ได้ประสาน กับทางคณะกรรมาธิการ วุฒิสภา เพื่อให้ออกแบบสอบถามสมาชิกวุฒิสภาทุกคนเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ และทาง นิกร​ จำนงค์​ ในฐานะโฆษกของคณะกรรมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ​ ที่ได้ไปหารือกับ พริษฐ์ วัชรสินธุ​ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล

นอกจากนี้ได้มีการไปสอบถามความคิดเห็นของ​ ชัยธวัช ตุลาธน​ หัวหน้าพรรคก้าวไกล​ รวมถึงจะมีการไปสอบถามความคิดเห็นของภาคสังคม​ นักศึกษาและภาคประชาชน​ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในแผนแล้ว​

ส่วนการทำงานของคณะอนุกรรมการการศึกษาด้านกฎหมาย ก็จะมีการนำพระราชบัญญัติต่างๆ มาศึกษาพิจารณาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ​ โดยจะดูในเรื่องข้อดีข้อเสียต่างๆ ซึ่งขณะนี้การดำเนินการก็เป็นไปได้ด้วยดี โดยจะนำการศึกษาทั้งหมดมารายงานความคืบหน้าต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ในการประชุมครั้งต่อไป


มั่นใจคนในพรรคหนุน 'อิ๊งค์' นั่งหัวหน้าเพื่อไทย

ภูมิธรรมกล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า แพทองธาร ชินวัตร จะเข้ามาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ ติดปัญหาอะไรหรือไม่ ว่า ในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ จะมีการเลือกตั้งเพื่อสรรหาคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ตลอดทั้งทั้งวัน โดยคณะกรรมการบริหารส่วนอื่นก็มีความพร้อมด้วยเช่นกัน โดยพร้อมจะดำเนินการและเข้ามาทำงานในฝ่ายรัฐสภา ฉะนั้นผู้บริหารชุดใหม่จะมีเวลาในการทำงานในพรรคได้มากขึ้น 

ภูมิธรรม ยังระบุว่า ส่วที่มีกระแสข่าวว่า แพทองธาร จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ หากถามสมาชิกทุกคนเขามีความพร้อมเหมาะสม อยู่ที่การตัดสินใจของทาง แพทองธาร แต่เท่าที่ฟังมาไม่ได้มีความขัดข้องอะไร พร้อมที่จะเป็นหัวหน้าพรรค หากสมาชิกไม่ขัดข้องอะไร และส่วนตัวตนคิดว่า แพทองธาร ถ้าตัดสินใจที่จะเป็นหัวหน้าพรรคเชื่อว่าสมาชิกพรรคทุกคนจะยอมรับและสนับสนุน เพราะมีความพร้อมมากพอสมควรทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิ รวมถึงประสบการณ์ทางการเมือง ที่ผ่านมา แพทองธาร มีประสบการณ์ทางการเมืองมาตั้งแต่ช่วงอายุอย่างน้อย ในสมัยตั้งพรรคไทยรักไทย และถึงปัจจุบันเป็นพรรคเพื่อไทย ซึ่งเขาได้ขึ้นเวทีเกือบทุกเวทีและเคยเดินทางไปเกือบทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะหาเสียงกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคุณพ่อ หรือการร่วมประชุมจัดตั้งนโยบายกับนายทักษิณ ซึ่งได้รับรู้มาโดยตลอด จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์วิกฤตการณ์รัฐประหารในปี 2549 ก็มีโอกาสได้พบกับประสบการณ์ที่มีความขัดแย้งอย่างรุนแรง แต่สามารถจัดการและผ่านมาได้ด้วยดี 

ตนคิดว่าความพร้อมของ แพทองธาร มีมากพอสมควร แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่การตัดสินใจของเขา และอาจจะต้องมีการพูดคุยกับครอบครัว เนื่องจากมีลูกแล้ว เพราะการเป็นหัวหน้าพรรคจะต้องทุ่มเทเวลาเป็นอย่างมาก แต่คิดว่าหากได้เข้ามาแล้วจะทำให้พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมมากขึ้น เนื่องจาก แพทองธาร ได้พบกับประชาชนทั้งในชนบทและในเมืองมากพอสมควร ซึ่งจะมีการรับรู้ความต้องการของพี่น้องประชาชน ขณะเดียวกันก็มีความเข้าใจกับ สส. ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยประสานงานได้ทั้งหมด ส่วนตัวคิดว่าหากไม่ปฏิเสธและยอมรับสำหรับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคก็มีความเหมาะ 

เมื่อถามถึงตำแหน่งเลขาธิการของพรรค ซึ่งจะมีคนรุ่นใหม่ร่วมด้วยหรือไม่นั้น ภูมิธรรม ระบุว่า เรามีคนหลายรุ่นอยู่ในพรรคทั้งคนรุ่นใหญ่ ตั้งแต่สมัยไทยรักไทย เริ่มต้นมีประสบการณ์ทางการเมืองพอสมควรร่วม 25 ปี และคนรุ่นกลาง ที่เติบโตมาที่เติบโตพร้อมกับไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนจนมาถึงพรรคเพื่อไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่ขณะนี้มีจำนวนมากเพราะฉะนั้นฉะนั้นคิดว่าการประสานงานกับคนทั้ง 3 รุ่น อยู่ในทิศทางที่เราสามารถทำได้ ส่วนจะอยู่ในบทบาทมากน้อยแค่ไหน เป็นเรื่องของคนส่วนใหญ่ที่จะต้องร่วมกันพิจารณาในที่ประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งครั้งนี้เราจะมีการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่คนรุ่นกลางเข้ามาบริหารพรรคให้มากขึ้น ประสานเพื่อที่จะได้ประสานกับคนวัยต่างๆ ทั้งในและภายนอก และภายในประเทศให้ได้ดียิ่งขึ้น

เมื่อถามว่า หาก แพทองธาร มาเป็นหัวหน้าพรรค จะเชิญอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นที่ปรึกษาหรือไม่ ภูมิธรรม ระบุว่า อย่าเพิ่งไปพูดเลยครับ เพราะตอนนี้ก็อยู่ที่ในโรงพยาบาล อาการป่วยยังมีอยู่ แต่ว่าในพรรคเพื่อไทย เราไม่ได้ปฏิเสธใคร เช่น กรณีของ เศรษฐา ทวีสิน เมื่อเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ได้มีการเดินสายไปพบกับทุกฝ่ายและทุกส่วน รวมถึงได้มีการไปพบกับอดีตนายกรัฐมนตรีหลายคน ไม่ได้ปฏิเสธคนที่มีความรู้ความสามารถถ้าช่วยให้รัฐบาลและพรรคแข็งแรง พร้อมยินดีรับฟังความคิดเห็นทั้งหมด ซึ่งตนมองว่ายังเร็วไปที่เราจะพูดเรื่องดังกล่าวนี้