ที่รัฐสภา ชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและกระทำให้บุคคลสูญหาย ในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายรังสิมันต์โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษก กมธ.อุ้มหาย , อังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนและญาติเหยื่ออุ้มหาย, นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ในฐานะ กมธ.อุ้มหาย และกรรมาธิการบางส่วน ร่วมกันแถลงผลการประชุมภายหลังจาก กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเสร็จสิ้นในรายมาตราแล้ว

ชวลิต กล่าวว่า กฎหมายป้องกันการซ้อมทรมานและบังคับให้สูญหาย ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก สื่อมวลชนให้ความสนใจและต่างชาติให้ความสำคัญติดตามอยู่ ดังนั้น กมธ. ทุกคนจึงให้มีความตั้งใจที่จะให้กฎหมายฉบับนี้อนุวัฒน์กับกฎหมายระหว่างประเทศ หรือสอดรับกับพันธสัญญาและกติการะหว่างประเทศที่ไทยได้ลงนามและเป็นภาคี โดยกรรมาธิการมีความคิดก้าวหน้าไปกว่านั้นคือ ให้มีมาตรการในการป้องกันการอุ้มหายโดยเจ้าหน้าที่รัฐ

ซึ่งจะมีบทลงโทษที่หนัก และกลไกการเยียวยาชดเชยเหยื่อด้วย จึงหวังจะได้รับและผ่านการพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้มาจากการเสนอเข้าสภา 4 ฉบับทั้งจากรัฐบาล,จาก กมธ.การกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน รวมถึงจากพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ขนาดที่ กมธ.ได้ประชุมกันอย่างน้อย 29 ครั้ง จนมาถึงชั้นพิจารณารายมาตราแล้วเสร็จในวันนี้

ชวลิต เปิดเผยด้วยว่า กมธ.ได้มีการแก้ไขหลายมาตรา จากการรับฟังความเห็นของ ส.ส.ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนโดยพรรคการเมืองที่เสนอร่างกฎหมายต่างๆด้วย และกรรมาธิการอุ้มหายเองก็รับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนมีการปรับแก้จำนวนมาก เพื่อให้อนุมัติกับกฎหมายระหว่างประเทศและให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด