เมื่อเสียงปริ่มน้ำของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังถูกท้าทายอย่างหนัก โดยเฉพาะหลังการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งใหม่ 22 พ.ค. 2565 หรือในอีกประมาณ 2 เดือน ข้างหน้า
พล.อ.ประยุทธ์ อาจชิงยุบสภา ก่อนพรรคฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะหากยื่นญัตติแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ เท่ากับเดินเข้าสู่หลักประหารการเมือง ในสภาผู้แทนราษฎร เพราะรัฐธรรมนูญบังคับว่า “ห้ามยุบสภา”
กลุ่มก่อกบฏรัฐสภา อาจวางแผนโค่นล้ม ระดมเสียงปลด พล.อ.ประยุทธ์ ตามวิถีทางรัฐธรรมนูญได้อีกครั้ง
นั่นจึงทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ อาจตัดสินใจ ทิ้งไพ่ตาย ล้มกระดานเลือกตั้งใหม่ ก่อนที่พรรคฝ่ายค้านจะยื่นญัตติ เพื่อไม่ให้ถูกน็อกคาสภา
นี่คือ ฉากจำลอง ที่นักการเมือง ขั้วฝ่ายค้านพยายามวิเคราะห์ในทาง “เลวร้ายที่สุด”
หรือหาก พล.อ.ประยุทธ์ รอดพ้นสงครามอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้ ก็เจอกับดัก กฎหมายงบประมาณปี 2566 ที่จะต้องใช้เสียงข้างมากของสภา ในการพิจารณา “รับหลักการ” หากรัฐบาลพ่ายแพ้ มีทางเดียวคือ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก หรือ ยุบสภา ตามธรรมเนียมการเมือง
หากรอดไปได้อีก ก็จะเจอกับดัก เป็นนายกรัฐมนตรี เกิน 8 ปี ที่พรรคเพื่อไทยตั้งป้อมยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในช่วงเดือน ส.ค. 2565
ถึงวันนั้น สถานการณ์การเมือง อะไรก็เกิดขึ้นได้ - ไม่มีอะไรแน่นอน เป็นของตาย
พรรคเพื่อไทย และพันธมิตรฝ่ายค้าน จึงวางแผน “พบประชาชน” ทุกภาคทั่วประเทศ เพื่อรับฟังความปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน พร้อมกับจัดเสวนา 4 เวที 4 ภาค พุ่งเป้าให้ประชาชนเห็นความล้มเหลวของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ปูทางไปสู่การเลือกตั้งใหม่
ภายใต้โครงการผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน ในธีม: “ทั่วไทยทวงคืนอำนาจประชาชน”
เริ่มจาก วันอาทิตย์ที่ 13 มี.ค. 2565 “กรุงเทพมหานคร” : ทั่วไทยทวงคืนอำนาจประชาชน : หมดเวลานายกฯ ก่อนประเทศหมดเวลา
วันอาทิตย์ที่ 27 มี.ค. 2565 “น่าน” : ทั่วไทยทวงคืนอำนาจประชาชน : บริหารล้มเหลวซ้ำซาก ประชาชนจน ประเทศเจ๊ง
วันอาทิตย์ที่ 24 เม.ย. 2565 “นครราชสีมา” : ทั่วไทยทวงคืนอำนาจประชาชน : รัฐบาลสั่นคลอน สภาฯ ล้มลุกคลุกคลาน
วันอาทิตย์ที่ 1 พ.ค. 2565 “ชลบุรี” : ทั่วไทยทวงคืนอำนาจประชาชน : รัฐธรรมนูญสู่ทางตัน การเมืองสู่วิกฤติ
ลักษณะเวที คิกออฟตั้งแต่ 9.00 – 9.30 น. จากนั้น เสวนา/ปราศรัย เปิดโดยผู้นำฝ่ายค้าน เริ่มตั้งแต่ 9.30 น. - 11.30 น. ต่อด้วย ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 6 พรรค
ตั้งเป้ายอดคนฟังคนฟัง : ไม่เกิน 300 คน ต่อเวทีเพื่อเป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุข จากนั้น เวลา 13.00 น. – 16.00 น. 6 พรรคฝ่ายค้านจึงลงพื้นที่ รับฟังปัญหา ร่วมกัน
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทย ยังจัด “อีเวนต์” แยกต่างหาก ภายใต้โครงการ “ครอบครัวเพื่อไทย” คิกออฟ 19 มีนาคม ที่จังหวัดอุดรธานี “เมืองหลวง” เพื่อไทย ภาคอีสาน
“ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า “โครงการครอบครัวเพื่อไทย” จะเป็นการลงพื้นที่ไปพบปะพี่น้องประชาชน และเปิดรับสมัครสมาชิกพรรค โดยเราจะเปิดกิจกรรมในวันที่ 19 มี.ค. นี้ที่จังหวัดอุดรธานี
เพราะเราเห็นว่าภาคอีสานเป็นภาคใหญ่ และมีความสำคัญ นอกจากนี้ เราจะมีการลิงค์ระบบไปยังภาคต่างๆผ่านรูปแบบออนไลน์ด้วย
ซึ่งจะเป็นการทำกิจกรรมพร้อมกันในหลายๆจังหวัด ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนมาร่วมกิจกรรมกับพรรคเพื่อไทย
อีกด้าน การสมัครเป็นสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย ไม่ต้องเสียค่าสมัครสมาชิกพรรค เหมือนกับ “สมาชิกพรรค” ตามกฎหมายพรรคการเมือง ไร้ความยุ่งยาก “ประเสริฐ” เชื่อว่า กิจกรรมนี้จะสร้างความผูกพันระหว่างพี่น้องประชาชนกับพรรคเพื่อไทย มากยิ่งขึ้น
พร้อมกับเปิดให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน พรรคเพื่อไทย สมัครสามาชิกพรรคง่ายผ่านมือถือโดยไม่ต้องเสียเวลามากรอกเอกสารที่สาขาพรรค ที่ทำการพรรค
นอกจากนี้ ในช่วงปิดสมัยประชุม สิ่งที่พรรคเพื่อไทย ต้องเร่งดำเนินการคือ สรุป “ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.” ให้จบภายในช่วงปิดสมัยประชุมนี้ โดยเฉพาะเขตที่ยังว่างอยู่ เพื่อรองรับอุบัติเหตุการเมืองที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หากช้า..จะไม่ทันการณ์
อีกหนึ่งปรากฏการณ์ โหมโรงเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง คือการที่ อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” คัมแบ็กทักทายแฟนคลับ กลับมาไลฟ์สดพูดคุยกับแฟนเพจผ่านทางเฟซบุ๊ก
“ยิ่งลักษณ์” พูดตอนหนึ่งว่า “ขอบคุณแฟนเพจทุกคนที่เข้ามาฟัง วันนี้ก็เรียกว่าได้หายคิดถึง ได้มีโอกาสได้พูด ได้บอกความรู้สึกของตัวเองกับประชาชน สิ่งที่อยากบอกคือ วันนี้ไม่ได้อยู่บ้านเกิดมา 4 ปี แล้ว ก็เป็นปกติที่เราต้องคิดถึงกัน อยากบอกตามเพลงเล่าสู่กันฟังว่า ไม่ว่าฝนจะตกที่ไหน คนทางนี้ก็อยากรู้เรื่องราว และสะเทือนถึงทางนี้เช่นกัน ถ้าบ้านเรามีความทุกข์ยากลำบากอะไร คนอยู่ทางนี้เองก็รู้สึกสะเทือนใจ และเป็นห่วง นี่คือสิ่งที่อยากบอกทุกคน ไม่ว่าฝนจะตกทางไหน มันก็หนาวถึงคนทางนี้เช่นกัน ไม่ว่าเจออะไรก็อยากให้เล่าสู่กันฟัง”
“แม้ว่าจะทำอะไรไม่ได้ แต่กำลังใจ และการอยู่เคียงข้างจะไม่มีวันเลือน วันนี้มีแต่ความจริงใจที่จะอยู่เคียงข้าง อะไรที่จะทำเพื่อพี่น้องประชาชนได้ ดิฉันยินดี ขอให้พี่น้องประชาชนอดทน และรักษาสุขภาพให้ดี เชื่อว่าวันหนึ่งจะได้เจอสิ่งที่ดี และหวังว่าวันหนึ่งประเทศไทยจะได้ลืมตาอ้าปาก พี่น้องประชาชนจะมีรายได้ที่ดี ดิฉันขอเป็นกำลังใจให้“
ช่วงหนึ่งในการไลฟ์สด มีคำถามที่ “ยิ่งลักษณ์” ต้องตอบ คือ ถ้ายังเป็นนายกฯ หรือยังเป็นรัฐบาลอยู่จะมีนโยบายอะไรที่อยากทำบ้าง
“ยิ่งลักษณ์” ตอบว่า โครงการ 2 ล้านล้านบาท การทำรถไฟความเร็วสูง หรือการบริหารจัดการน้ำ เรื่องแท็ปเล็ต ฯลฯ ตอนที่เป็นรัฐบาลเราคิดว่าปีที่ 3 เราวางอนาคตในวันข้างหน้าของประเทศไทย เพราะปีแรกและปีที่ 2 เราใช้สำหรับแก้ปัญหาที่มีมา ขณะนั้นมีการวางยุทธศาสตร์จังหวัด เพื่อให้แต่ละจังหวัดมีความแตกต่างแล้วด้วย
นอกจากการปรากฏตัวของ “ยิ่งลักษณ์” คู่ขนานไปกับการปรากฏตัวของ “พี่โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อังคาร เว้น อังคาร แล้ว
แหล่งข่าวในพรรคเพื่อไทย บอกว่า ปีนี้พรรคเตรียมเปิดตัว ตัวละครสำคัญเพื่อเตรียมรับเลือกตั้งอีกเพียบ