ไม่พบผลการค้นหา
เลขาฯ สมช. เผย นายกรัฐมนตรี สั่ง ศปก.ศบค. เตรียมยกเลิกใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใน 2-3 เดือนข้างหน้า หากสถานการณ์ดีขึ้น พร้อมเตรียมผ่อนปรนมาตรการ-จัดงานช่วงสงกรานต์ เป็นของขวัญประชาชน ลั่นมั่นคงจับตา เหตุเผาหน้าเรือนจำ ชี้รัฐบาลมอบเป็นหน้าที่ตำรวจ

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. กล่าวถึงความคืบหน้าการทำพาสปอร์ตวัคซีนในประเทศไทย ว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขกำลังดำเนินการอยู่  ส่วนการผ่อนปรนมาตรการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้พิจารณา จึงต้องรอกระทรวงสาธารณสุขประเมินสถานการณ์ โดยคาดการณ์ว่า หากกลางเดือนมี.ค.นี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดลดลง ก็จะมีการปรับระดับความเข้มข้นของมาตรการลดลงอีก เพื่อเตรียมผ่อนคลายในช่วงสงกรานต์ 

นอกจากนี้ ยังมีการหารือในประเด็นการผ่อนคลาย Quarantine ของผู้ที่จะเดินทางเข้าราชอาณาจักร ซึ่งทางศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศปก.ศบค. จะนำเรื่องดังกล่าวไปเร่งพิจารณา เพื่อเป็นของขวัญคนไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์

ทั้งนี้ พล.อ.ณัฐพล ยังระบุอีกว่า หากประเมินสถานการณ์ หากไม่มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น สถานการณ์ก็ค่อยๆดีขึ้น ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาตรการควบคุมในปัจจุบัน ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เว้นแต่จะมีอะไรที่ไม่คาดคิดอย่างการปกปิดข้อมูล แต่หากเป็นการเปิดเผยข้อมูลในปัจจุบัน ก็ประเมินได้ว่าสถานการณ์นั้นดีขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนทางสถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงเป็นเช่นนี้จะสามารถจัดงานเทศกาลสงกรานต์ได้หรือไม่นั้น พล.อ.ณัฐพล ระบุว่าสามารถจัดได้ และประเทศไทยจะต้องอยู่กับตัวเลขของผู้ติดเชื้อประมาณนี้ ไม่ใช่ผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์อีกแล้ว ก็ถือได้ว่าสาธารณสุขสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งได้กราบเรียนไปยังนายกรัฐมนตรี ว่าจะสามารถผ่อนคลายมาตรการได้ในช่วงกลางเดือน มี.ค.นี้

ส่วนการประกาศใช้พระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า ยังมีสถานการณ์บางอย่างที่ยังคงต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ แต่ก็มีการเตรียมแผนที่จะยกเลิกการใช้บังคับใช้ ภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า และการบังคับใช้ในปัจจุบันเป็นเพียงการบังคับใช้ในส่วนของโรคติดต่อเท่านั้น ซึ่งต้องขอความเห็นใจประชาชนและฝากไปยังสื่อมวลชน ถึงความจำเป็นที่คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน พร้อมย้ำว่านายกรัฐมนตรีได้สั่งการมาแล้วให้เตรียมพร้อมใช้กฎหมายปกติ เมื่อสถานการณ์นั้นดีขึ้นเรื่อยๆ 

พล.อ.ณัฐพล ยังกล่าวถึงเหตุการณ์หน้าเรือนจำกลางกรุงเทพฯ ว่า รัฐบาลมอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนนี้ของความมั่นคงก็ติดตามอยู่


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :