ไม่พบผลการค้นหา
พปชร. ลงพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร พร้อมเปิดตัวผู้สมัครเขต 6 อ้อนของเสียงคนกรุง ชู "พล.อ.ประยุทธ์" นั่งเก้าอี้นายกฯ ต่อ ด้านผู้ค้าตอบรับดี บอก 'ลุงตู่อยู่ในใจเสมอ'

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการบริหารพรรคประชารัฐ พร้อมผู้สมัครส.ส.เขต 6 เบอร์ 11 เขตพญาไท เขตราชเทวี เขตจตุจักร เฉพาะแขวงจตุจักรและแขวงจอมพล นางภาดาท์ วรกานนท์ เดินทางลงพื้นหาเสียงที่ตลาดนัดจตุจักร โดยได้พูดคุยกับผู้ค้าและนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ ด้านผู้ค้าในตลาดจตุจักร ได้ตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมกล่าวให้กำลังใจและถ่ายรูปกับผู้สมัครและทีมงานที่ช่วยหาเสียง และยืนยันจะเลือกผู้สมัครของพรรค 


พปชร

อีกทั้งยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. แคนดิเดตชิงตำแหน่งนายกฯ โดยย้ำว่า "รักลุงตู่ ,ลุงตู่อยู่ในใจเสมอ ,เลือกพรรคพลังประชารัฐเพื่อมาพัฒนาตลาดของพวกเรา"

ด้านนายพุทธิพงศ์ ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่หาเสียงว่า แม้พรรคพลังประชารัฐจะเป็นพรรคใหม่แต่เชื่อว่าแม้พรรคพลังประชารัฐเอง มีนโยบายที่แตกต่าง เพราะอยากเห็นกรุงเทพมหานครพัฒนา โดยการทำงานทางการเมืองของพรรคพลังประชารัฐ มีกระบวนการแบบใหม่ที่เน้นสร้างสรรค์ เลี่ยงการสร้างวาทกรรมโจมตีกันแบบการเมืองเก่า นอกจากนี้สิ่งที่เราจะเน้นคือเราต้องการสร้างคุณภาพชีวิตให้คนกรุงเทพดีขึ้นต่อไป

พปชร. ปัดก็อปปี้นโยบายประชาธิปัตย์ ยันไม่เคยเอาเปรียบพรรคอื่น

ส่วนการโจมตีว่าพรรคลอกเลียนนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายพุทธิพงษ์ ชี้แจงว่านโยบายของแต่ละพรรคก็อปปี้กันยาก ขณะที่นโยบายของพลังประชารัฐให้ความสำคัญกับประชาชน อาจไม่ใช่นโยบายที่สวยหรู แค่เป็นนโยบายที่จับต้องได้ ไม่ใช่ออกมาแล้วแต่ผ่านไปหลายปีก็ยังไม่มีการผลิตเป็นรูปธรรรมออกมา 

ส่วนกรณีการจับมือกับพรรคการเมืองผู้ตั้งรัฐบาล นายพุทธพงษ์ ย้ำว่า วันนี้ไม่ได้สนใจว่าจะจับมือใคร ไม่เคยคิดว่าจะฮั้วกับใคร และเชื่อว่าคนไทยทั่วประเทศต้องการผู้สมัครที่ตอบโจทย์ 

พปชร

พร้อมกันนี้ยืนยันว่าการหาเสียงวันนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งถือว่าเป็นความบังเอิญ โดยพรรคได้มีกำหนดการลงพื้นที่หาเสียงอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามพลังประชารัฐ เองก็ต้องระมัดระวัง เพราะอาจถูกนำไปโจมตีได้ว่าเป็นเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น

ส่วนการเชิญนายกฯ ไปดีเบต เบื้องต้นตามกฎหมายไม่สามารถทำได้ และจะเห็นว่านายกฯ วางตัวเป็นกลาง และต้องดูว่าการลงพื้นที่แต่ละครั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยเห็นว่าผู้สมัครพลังประชารัฐเองจะได้ประโยชน์จากส่วนนี้ และพลังประชารัฐเองก็ดำเนินการตามระบอบประชาธิปไตย 

"การเมืองยุคใหม่ต้องยึดโยงความเป็นจริง และเชื่อว่าประชาชนจะตัดสินเอง ที่มีบางพรรคเสนอให้มีการยกเลิกการเกณฑ์ทหารหรือการยกเลิกไหว้ครู ซึ่งบางเรื่องที่มันขัดต่อศีลธรรมต้องพิจารณาดีๆ" นายพุทธิพงษ์ กล่าว


พปชร

ทั้งนี้ในปัจจุบันความนิยมของนายกฯ ที่สะท้อนผ่านความสงบ เชื่อว่าประชาชนจะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ในการบริหารบ้านเมืองด้วยความสงบ ซึ่งในจุดนี้จะทำให้การแก้ปัญหาต่างๆ สามารถเดินหน้าต่อไปได้

ส่วนการตรวจสอบคุณสมบัตินายกฯ เห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีและจำเป็นตามระบอบประชาธิปไตย อย่างไรก็ตามไม่มีความกังวลว่าจะมีผลกระทบกับพรรคประชารัฐ

ส่วนการใช้อำนาจมาตรา44 ของนายกฯ ใช้เพื่อแก้ปัญหาที่ติดขัด ไม่เคยใช้เอื้อพวกพ้อง โดยไม่เคยเห็นแม้แต่ครั้งเดียว เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ เองต้องการสร้างผลด้านบวกต่อประชาชนและประเทศ