วันที่ 10 มี.ค. 66 สมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย วีระ สมความคิด เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพื่อขอพบ แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. หลังจากที่มีการนัดหมายไว้ แล้วไม่ได้เข้าพบ และไม่สามารถติดต่อได้ รวมถึงไม่สามารถชี้แจงเหตุผลของการไม่รับคำร้องคำปราศรัยของพรรครวมไทยสร้างชาติ

สมชัย ระบุว่า ตามนัดเดิมคือวันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมาได้นัดหมาย แสวง บุญมีไว้ ในวันนั้นทางศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเรื่องการคำนวณจำนวนราษฎรในการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พ.ศ. 2566 จึงไม่สามารถมาพบได้ จึงให้ตัวแทนมาพบ ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกันแต่ในเหตุผลที่ได้นำมาชี้แจงนั้นก็เป็นเหตุผลที่ยังรับไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่หลักฐานไม่เพียงพอ ก็ขอยืนยันว่ามีหลักฐานครบถ้วน ทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุ ในเชิงหลักฐานไม่ได้บกพร่อง มีมากเกินกว่าที่ใช้ได้ด้วย 

สมชัย ระบุต่อว่า ส่วนอีกเหตุผลที่บอกว่าไม่มีสิทธิในการยื่นคำร้อง เพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่ใช่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่นั้น ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีการแบ่งเขตการเลือกตั้งที่แน่ชัด การอ้างแบบนี้ตลกขบขันเกินไป กกต.ต้องทำหน้าที่ในการรักษาการเลือกตั้งให้เที่ยงธรรม จะมาพูดตลกแบบนี้ไม่ได้ ในวันนี้จึงเดินทางมาเพื่อสอบถามอีกครั้ง

ระหว่างการให้สัมภาษณ์ สมชัย ได้นำโทรศัพท์มือถือมาเพื่อโทรหา แสวง บุญมีต่อหน้าสื่อมวลชนว่าไม่สามารถติดต่อได้ และเสียงรอสายโทรศัพท์นั้นเป็นเสียงที่ไม่สามารถติดต่อได้

วีระ กล่าวว่า นอกจากมาขอพบแล้ว ก็มาติดตามเรื่องที่ยื่นไปในวันที่ 3 มี.ค. การปราศรัยของพรรครวมไทยสร้างชาติมีการนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาพูดเพื่อปราศรัย จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ป. พรรคการเมืองหรือไม่ และทาง กกต.ดำเนินการไปถึงขั้นไหนแล้ว

ต่อมาได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอเข้าพบ แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ซึ่งมีบัณฑิต วงษา ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตราด มาพูดคุยพร้อมระบุว่า ตอนนี้ระหว่างดำเนินการ ซึ่งจะมีการทำหนังสือชี้แจงออกมา

ภายหลังจากการพูดคุยจึงได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเพิ่มเติม โดย สมชัย ระบุว่า การขอพบเลขาธิการฯ กตต. นั้น เจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องทำเป็นจดหมายเข้ามาถึงจะขอพบได้ หากทำไปไม่รู้จะได้พบหรือไม่ และสัปดาห์หน้าก็จะเลยกำหนด 7 วันแล้ว หากยังไม่มีการชี้แจงจะดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมกับการร้องต่อ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ในฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กับคณะกรรมการเลือกตั้งทั้ง 6 คน ส่วนการดำเนินการตรวจสอบแสวง บุญมี ต้องรอวันอังคารว่าจะชี้แจงว่าอย่างไร

ด้าน บุญส่ง ชเลธร ผอ.การเลือกตั้ง พรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า กกต. ต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง แต่ที่ผ่านมาประชาชนก็เห็นว่าไม่เป็นกลาง ใช้กฎหมายเล็กน้อยเพื่อตัดปัญหาออกไปวันต่อวัน และหวังว่าวันหนี่งเราจะได้เอา กกต. ชุดนี้ขึ้นศาลพิจารณาความผิด ตอนนี้ยังทีเวลาให้ดิ้นได้ก็ดิ้นไป

วีระ กล่าวทิ้งท้ายว่า ยืนยันไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ที่ยื่นคำร้องก็เพื่อให้ตรวจสอบให้เป็นบรรทัดฐาน ผิดก็ว่าไปตามผิดตามกฎหมาย และ กกต. มีหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งให้สุจริตและเที่ยงธรรม