เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 6 เมษายน พรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดงานวันครบรอบการก่อตั้งพรรค 77 ปี ภายในที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ถนนเศรษฐศิริ โดยภายในงานมีการประกอบพิธีทางศาสนา 3 ศาสนา ประกอบด้วย ศาสนา อิสลาม พราหมณ์ และ พุทธ โดยมี 4 อดีตหัวหน้าพรรค แกนนำคนสำคัญของพรรค ผู้บริหารพรรค ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งบัญชีรายชื่อ และแบบเขต ร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ , หัวหน้าพรรค แคนดิเดตนายกฯของพรรค , ชวน หลักภัย อดีตนายกฯ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร , อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี , บัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานที่ปรึกษาพรรคฯ และอดีตหัวหน้าพรรคฯ 

นิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคฯ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคฯ , เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคฯ , อลงกรณ์ พลบุตร , ไชยยศ จิรเมธากร รองหัวหน้าพรรคฯ , องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคฯ , สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคฯ , สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบายกรุงเทพมหานครของพรรค , เกียรติ สิทธิอมร คณะกรรมการนโยบายด้านเศรษฐกิจของพรรค ฯลฯ 

ทั้งนี้ มีตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ นำแจกันดอกไม้มาร่วมอวยพร อาทิ ศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย สรอรรถ กลิ่นประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย โดยสรอรรถอวยพรว่า ขอให้ชนะในการเลือกตั้ง

นอกจากนั้นยังมี ตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ ชัยวุฒิ ธนคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคฯ และ สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคฯ โดย ชัยวุฒิ อวยพรว่า ขอให้พรรคประชาธิปัตย์เข้มแข็ง จากนั้นเดินทางกลับทันที 

ช่วงหนึ่ง ในขณะที่ชวน หลีกภัย แจกลายเซ็นให้กับผู้มาร่วมงานครบรอบวันเกิดพรรคอยู่นั้น ผู้สื่อข่าวถาม ชวน หลีกภัย ว่าสัญลักษณ์เบอร์ 26 ของพรรคทำอย่างไร ชวนตอบกลับว่า "26 นับทั้งนิ้วมือนิ้วเท้าก็ไม่พอ"

'จุรินทร์' อ้อนคนเคยทิ้งกลับมาช่วยพรรคให้ชนะเลือกตั้ง

ด้าน จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรค และ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า ในรอบนี้ประชาธิปัตย์ ก็มีความพร้อมทั้งและนโยบาย และพร้อมทั้งหัวหน้าพรรค ที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป สำหรับการจับทัพหาเสียง ก็จะมุ่งการจัด 3 ทัพ คือทัพหัวหน้าพรรค ทัพเลขาธิการพรรค และก็ทัพอดีตหัวน้าพรรค ที่จะออกไปหาเสียงทั่วประเทศ และเรามั่นใจว่า ในการเลือกตั้งรอบนี้ ประชาธิปัตย์จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากทุกภาค ทั้งเหนือ อีสาน กลาง ใต้ จากการที่ลงพื้นที่ต่อเนื่อง 

"ผมขอถือโอกาสนี้ วิงวอนประชาชนทั้งประเทศไทย โปรดช่วยสนับสนุนพรรคปรชาธิปัตย์ โดยเฉพาะสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ ซึ่งมีอยู่มากมายมหาศาล ทั้งที่เคยเลือกเราคราวที่แล้ว ขอเรียกร้องให้ ยืนหยัดที่จะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป และสำหรับสมาชิกพรรคที่รอบที่แล้วทิ้งเราไป ผมขอเรียกร้องให้กลับมาช่วยเรา มาช่วยประชาธิปัตย์ มาช่วยกันจับมือกับชาวเรา เพื่อให้ประชาธิปัตย์สำเร็จในการเลือกตั้ง ไม่ใช่เพื่อเรา แต่เพื่ออนาคตที่ดีกว่า อย่างยั่งยื่นของประเทศไทย และเรายังยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ด้วยคนนโยบาย แคนดิเดตนายกฯ และศักยภาพเราทั้งปวง" จุรินทร์ กล่าวด้วยน้ำเสียงวิงวอน 

เมื่อถามต่อว่า จุดแข็งของพรรคประชาธิปัตย์ หากเทียบกับพรรคอื่นที่มีอายุน้อยกว่า หรือพรรคที่ล่มสลายหายไปในทางการเมือง จะสามารถเป็นจุดขายได้หรือไม่ จุรินทร์ตอบว่า นี่คือจุดขายสำคัญ ที่ทำให้ประชาชนไว้ใจเราได้ เพราะเราเป็นสถาบันทางการเมือง อยู่มาตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เพื่อรับใช้ประชาชน ดังนั้น ถ้าเลือกประชาธิปัตย์ครั้งหน้า เรายังอยู่ ทำถูกทำผิด ประชาชนสามารถกลับมาทวงนโยบาย และความรับผิดชอบ ได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะประชาธิปัตย์ยังอยู่ เรียนว่านโยบายที่เรากำหนด อยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราคิดมาแล้วเราทำมาแล้วเพื่อประชาชน

เมื่อถึงกรณีที่เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เสนอนโยบายดิจิทัลวอลเล็ท 10,000 บาท ใช้จ่ายในรัศมี 4 กิโลเมตร อายุการใช้งานไม่เกิน 6 เดือน มันเป็นการสัญญาว่าจะให้หรือไม่ จุรินทร์ กล่าวว่า ขอยังไม่วิจารณ์นโยบายพรรคอื่น เราก็ทำของเรา เราขอให้ประชาชนเลือกประชาธิปัตย์ พรรคอื่นทำอย่างไร ยังไม่ขอพาดพิง คิดว่านีี่คือวิธีการหาเสียงที่ดีที่สุด และประชาชนต้องการ

เมื่อถามว่า ในการหาเสียง พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่พาดพิงใครใช่หรือไม่ จุรินทร์ กล่าวว่า จะไม่พูดถึง ถ้าหากไม่ถูดพาดพิงจนพรรเกิดความเสียหาย หรือประชาชนเข้าใจผิด แบบนี้เราต้องชี้แจง เราจะไม่อยู่ดีๆ ไปพาดพิงโดยไม่จำเป็น เราไม่ทำ เพราะพูดกันแล้ว ขอนำเสนอทางเลือก นโยบาย แคนดิเดตนายกฯเราเป็นนักประชาธิปไตยในวิถีทางของเราอย่างไร ประสบการณ์ด้านบริหาร นิติบัญญัติ ทำมาอย่างไร นี่คือิ่งที่เราจะไปบอก ไปพูด 

จุรินทร์ ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพว่า กรุงเทพฯ คือลมหายใจของประชาธิปัตย์ เราจะได้เสียงตอบรับกลับคืนมา ทั้งหมดนี้ ดูจากที่เราลงพื้นที่ต่อเนื่อง และที่สำคัญ เราไม่เคยทิ้งคนกรุงเทพฯไปไหน ยกตัวอย่างช่วงโควิด เราเป็นหนึ่งในไม่กี่พรรค เราพูดได้เลยว่าเราลงไปหาเตียงให้ผู้ป่วย จัดตั้งศูนย์ฉุกเฉิน ได้ถึงหกพันเตียง ส่งข้าวกล่องถึงบ้าน ประชาธิปัตย์จัดมาต่อเนื่อง ดังนั้น เมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง กทม. แม้ผู้ว่า กทม.เราจะแพ้ แต่ ส.ก.ประชาธิปัตย์ ชนะที่ 2 ถึง 7 เขต ได้ ส.ก.ถึง 9 ที่นั่ง หลายคนเดินมาขอโทษว่า คราวที่แล้วไม่เลือกประชาธิปัตย์คราวนี้จะช่วยนี่คือสัญญาณ เรียกร้องท่านที่ทิ้งเราไปให้กลับมาช่วยพรรคประชาธิปัตย์