ไม่พบผลการค้นหา
โอมาร์ อัล-บาเชียร์ ประธานาธิบดีซูดานที่อยู่ในอำนาจมาเกือบ 30 ปีถูกกองทัพยึดอำนาจ หลังประชาชนประท้วงขับไล่ผู้นำเผด็จการ ขณะที่นักเคลื่อนไหวเรียกร้องให้กองทัพคืนอำนาจให้รัฐบาลพลเรือนบริหารประเทศในระยะเปลี่ยนผ่าน

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เมื่อเวลา 03.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ผู้บัญชาการ 4 เหล่าทัพของซูดานได้เดินทางไปที่บ้านของโอมาร์ อัล-บาเชียร์ ประธานาธิบดีซูดานที่มาจากการยึดอำนาจเมื่อปี 1989 เพื่อกดดันให้อัล-บาเชียร์ลงจากอำนาจ เขาจึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง

อาวัด โมฮัมเหม็ด อิบน์ อูฟ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของซูดาน ประกาศผ่านโทรทัศน์ว่า อัล-บาเชียร์ถูกกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว และเขาได้ถูกนำตัวไปอยู่ใน "สถานที่ปลอดภัย" โดยกองทัพได้ตั้งคณะกรรมาธิการของกองทัพเพื่อเข้ามาบริหารประเทศในระยะเปลี่ยนผ่าน 2 ปี หลังจากที่ประชาชนได้ออกมาประท้วงขับไล่อัล-บาเชียร์มาหลายเดือน

นอกจากนี้ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ยังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 3 เดือน ระงับการใช้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และประกาศเคอร์ฟิวไม่ให้ประชาชนออกจากบ้านเรือนตั้งแต่เวลา 22.00 - 04.00 น. และจะมีการรักษาความปลอดภัยท่าเรือกับสถานพยาบาลต่างๆ อย่างเข้มงวดขึ้น

ส่วนระบบยุติธรรม ศาล สถานทูต และเจ้าหน้าที่ทางการทูตจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ขณะที่นักโทษการเมืองทั้งหมดที่ถูกควบคุมตัวนับตั้งแต่มีการประท้วงต่อต้านรัฐบาลของอัล-บาเชียร์ในเดือน ธ.ค.ปี 2018 จะได้รับการปล่อยตัว

นักเคลื่อนไหวเรียกร้องกองทัพคืนอำนาจให้พลเรือน

นักเคลื่อนไหวชาวซูดาน ได้ออกมาแสดงจุดยืนไม่ยอมรับคำประกาศของรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมที่จะแต่งตั้งคณะกรรมาธิการของกองทัพมาบริหารประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่าน 2 ปี โดยนักเคลื่อนไหวเรียกร้องให้กองทัพปล่อยให้มีรัฐบาลพลเรือนเข้ามาบริหารประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยโอมาร์ อัล-นีล นักเคลื่อนไหวชาวซูดานให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่า ชาวซูดานต้องการโค่นล้มระบอบอำนาจทั้งหมด ไม่ได้ต้องการรีไซเคิลคนเดิมๆ ขึ้นมาบริหารประเทศ

ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวซูดานได้ปักหลักประท้วงหน้ากองบัญชาการกองทัพและทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงคาร์ทูม ซึ่งมีประชาชนเข้าร่วมมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มประท้วงกันในเดือน ธ.ค.

อย่างไรก็ตาม อัล-นีลยืนยันว่า ผู้ประท้วงจะยังคงปักหลักชุมนุมกันที่จนกว่าข้อเรียกร้องของพวกเขาจะสำเร็จลุล่วง และเขาเชื่อว่า ชาวซูดานจะออกมาประท้วงกันมากขึ้นกว่าเดิม และอาจขยายออกไปยังจุดอื่น เนื่องจากประชาชนรู้สึกผิดหวังและเร้าใจอย่างมากกับคำประกาศของรัฐมนตรีกลาโหม

สมาคมวิชาชีพซูดาน หรือ SPA ซึ่งรวมทั้งแพทย์ ทนายความและนักเคลื่อนไหวต่างๆ ที่มีส่วนร่วมในการจัดการประท้วงได้เรียกร้องให้ประชาชนทั่วประเทศไปประท้วงกันที่กองบัญชาการทหารต่างๆ โดยในแถลงการณ์ของ SPA ระบุว่า ระบอบอัล-บาเชียร์ได้ทำรัฐประหาร เพื่อผลิตคนหน้าเดิมๆ ที่ประชาชนต้องการปฏิวัติให้ออกไปจากอำนาจ

ด้านเคลเมนต์ นยาเลตโซสซี บูล ผู้เขียนรายงานพิเศษว่าด้วยเรื่องสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมและสมาคมอย่างสันติของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ การใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุมอย่างสงบสันติจะต้องได้รับการปกป้อง จึงเรียกร้องให้กองทัพยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและตอบสนองต่อความคับข้องใจของประชาชนชาวซูดานด้วยกระบวนการทางการเมืองที่สันติและให้ประชาชนมีส่วนร่วม

ที่มา : CNN, BBC