ไม่พบผลการค้นหา
ชี้ถึงเวลาปลดล็อกจากนายทุน หยุดมองวงการสุราไทยเป็นศัตรูของรัฐ พร้อมเพิ่มโอกาสกระตุ้นเศรษฐกิจ

ที่อาคารรัฐสภา เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล รับหนังสือจากกลุ่มประชาชนเบียร์ เพื่อเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมือง ผ่านร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต หรือ 'พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า' ซึ่ง เท่าพิภพ เป็นผู้เสนอร่าง และจะมีการนำร่างดังกล่าวเข้าพิจารณาต่อในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรภายในวันนี้ 

ธนากร ท้วมเสงี่ยม ตัวแทนกลุ่มประชาชนเบียร์ ระบุว่า กฏหมายภาษีสรรพสามิตปัจจุบัน มองประชาชนในวงการสุราไม่ต่างจากศัตรูของรัฐ ทำให้ผู้ผลิตสุราพื้นบ้านมีพื้นที่อยู่ในสื่อได้ยาก และทำใหัการผลิตสุราพื้นบ้านที่มีคุณภาพเป็นเรื่องยากเกินกว่าประชาชนจะเข้าไปแข่งขันในตลาดสุราได้จริง ขณะที่ร่าง พ.ร.บ. สุราก้าวหน้านี้ จะทำให้ประชาชนมีพื้นที่มากขึ้น มีโอกาสเยอะขึ้นในการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งเพื่อบริโภคเอง หรือจำหน่ายในปริมาณที่มากขึ้นมากกว่าที่กฎหมายกำหนด

เพราะเงื่อนไขทางกฏหมายปัจจุบันทำให้ผู้ผลิตสุรารายย่อยไม่สามารถผลิตได้เป็นหมื่นลิตรต่อวัน ล้านลิตรต่อปี จึงไม่มีทางที่ประชาชนคนธรรมดาจะทำอย่างนั้นได้ ยกเว้นคนไม่กี่กลุ่มที่ผูกขาดอำนาจของการการผลิตสุราไปหมดแล้ว จึงขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมือง ทั้งที่อยู่ในฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ร่วมโหวตให้ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ผ่านไป โดยอยากให้มองว่าเป็นเรื่องของปากท้องประชาชนทุกคน 

ด้าน ณิกษ์ อนุมานราชธน ตัวแทนฝั่ง Cocktail Bar และสุราชุมชน พบปัญหาที่กฏหมายกำหนดให้สุราพื้นบ้านมีศักยภาพการผลิตไม่เกิน 5 แรงม้า 7 แรงคน จึงไม่สามารถขยายฐานการผลิตเพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตให้เข้าไปแข่งขันในตลาดได้ ทั้งยังเชิญชวนให้ทุกคนมองมูลค่าทางเศรษฐกิจที่หายไปจากการที่สุราชุมชนยังถูกผูกขาด และยกในต่างประเทศ ที่มักใช้โรงกลั่นสุราเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ไม่เคยเกิดขึ้นในไทยเนื่องจากถูกปิดกั้นไว้

นอกจากนี้ ในต่างประเทศมีการนำผลไม้ต่างๆ มาแปรรูปเป็นสุรา ซึ่งประเทศไทยไม่สามารถทำได้เพราะมีกฎหมายล็อคไม่ให้ชาวสวนชาวไร่นำผลผลิตทางการเกษตรแปรรูปและเพิ่มมูลค่าได้ กล่าวได้ว่ากฎหมายนี้ปิดกั้นไม่ให้ชาวไร่ชาวสวนออกจากความจนที่เผชิญอยู่ จึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันโหวตให้ร่าง พ.ร.บ. นี้ เพราะเป็นสิทธิในการประกอบอาชีพของประชาชน 

ผศ.ดร.เจริญ เจริญชัย อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ในฐานะผู้ให้ความรู้แก่ผู้ผลิตสุราพื้นบ้านมาหลาบปี ระบุว่า การผลิตสุราชุมชนทุกวันนี้ถูกจำกัดอยู่ที่ 5 แรงม้า และคนงานที่น้อยกว่า 7 คน การทำสุราที่มีคุณภาพดีได้นั้น ต้องมีกำลังผลิต มีเครื่องมือเครื่องจักรที่เพียงพอในเพื่อพัฒนาขึ้นมาเป็นสุราที่สากลยอมรับ แต่ในปัจจุบันสุราชุมชนที่อนุญาตให้ผลิตในระดับโรงงานทำได้เพียงสุราขาว เหตุที่สุราพื้นบ้านไทยมีคุณภาพไม่ดี ไม่สามารถทัดเทียมกับต่างประเทศได้ก็เพราะข้อจำกัดนี้

การจะสร้างผลผลิตอย่างน้อย 90,000 ลิตรต่อวัน ต้องใช้ทุนอย่างมหาศาล จึงขอให้ ส.ส. ลงมติไม่เห็นด้วยให้รัฐบาลนำร่าง พ.ร.บ. สุราก้าวหน้าไปพิจารณาเป็นเวลา 60 วัน เพราะเป็นการแก้ไขเพียง 3 บรรทัดแต่ก็ใช้เวลามากถึง 2 เดือน ตนเห็นว่าไม่ควรต้องใช้เวลามากถึงขนาดนั้น ประเด็นนี้ไม่ใช่ประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่เป็นประโยชน์ของประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย รวมทั้งเกษตรกรที่สามารถใช้วัตถุดิบที่มีอยู่จนบางครั้งก็ล้นตลาด ให้สามารถแปรรูปเป็นแอลกอฮอล์เพื่อเพิ่มมูลค่าได้ 

"ประเทศเรามองเห็นสุราเป็นศัตรูเป็นปีศาจ มีความพยายามสร้างสุราให้เป็นปีศาจ แต่ในนานาอารยประเทศ สุราเป็นสิ่งที่สร้างรายได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศชาติ" ผศ.ดร. เจริญ กล่าว 

ทั้งนี้ ในช่วง 14.00 - 19.00 น. ของวันนี้ กลุ่มประชาชนเบียร์ ร่วมกับกลุ่มทะลุฟ้า จะจัดกิจกรรม 'สุราประชาชน' แสดงดนตรี ปราศรัย และแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ บริเวณสี่แยกเกียกกาย หน้าอาคารรัฐสภา