ไม่พบผลการค้นหา
'ศรีสุวรรณ' ย้ำกลุ่มผู้ชุมนุม 2 ฝ่าย จัดชุมนุมระหว่างมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมถึงข้อบังคับควบคุมโควิด-19 รับความผิดทางกฎหมายอย่างน้อย 9 ข้อหา ชี้ให้เตรียมใจถูกคุมขัง ลั่นถ้าปากกล้าอย่าขาสั่น

ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีกลุ่มเยาวชนปลดแอก และกลุ่มประชาชนปลดแอก ประกาศเชิญชวนเยาวชน นักศึกษา และประชาชน ให้มาร่วมชุมนุม ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในเย็นวันที่ 16 ส.ค.นี้ โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ หยุดคุกคามประชาชน, ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ ยุบสภา และยังมี 2 จุดยืนคือ ไม่เอารัฐประหาร และไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ รวมถึงอีก 1 ความฝันคือ "ประเทศไทยจะต้องปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง"

นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มศูนย์กลางประสานงานนักศึกษา อาชีวะ ประชาชน ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ (ศอปส.) จะมาเข้าสังเกตการณ์การจัดชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกดังกล่าว เพื่อจับผิดการชุมนุมด้วยนั้น

การจัดชุมนุมดังกล่าว ไม่ว่าเป็นกลุ่มใด แม้จะเป็นสิทธิเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 34 วรรคแรก บัญญัติไว้ แต่ในวรรคดังกล่าวรัฐธรรมนูญก็กำหนดข้อยกเว้นไว้ คือ "เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราขึ้นเฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐเพื่อคุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันสุขภาพของประชาชน"

อีกทั้งในขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้ยกเลิกการประกาศบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) และข้อกำหนดเพื่อป้องกันแก้ไขการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ดังนั้นการจัดการชุมนุมใดๆ ที่กระทบต่อความมั่นคง กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น กระทบต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน และกระทบต่อการป้องกันสุขภาพของประชาชน ถือว่า "ผิดกฎหมาย" ทั้งหมด

ดังนั้น ไม่ว่ากลุ่มใดก็ตามไปจัดชุมนุม และขึ้นปราศรัยไม่ว่าฯ จุดใด ย่อมผิดกฎหมายทั้งหมด และอาจจะต้องถูกตั้งข้อหาดังต่อไปนี้แน่นอน อาทิ

  • ร่วมกันกระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างในหมู่ประชาชนฯ
  • ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิด
  • ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกัน ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค
  • กระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ อาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตราย หรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
  • ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคด้านความปลอดภัย หรือความไม่สะดวกในการจราจรฯ
  • ร่วมกันวางหรือแขวนสิ่งหนึ่งสิ่งใดหรือกระทำด้วยประการใดในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร
  • ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใด ๆ บนถนน
  • ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
  • ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ

"ข้อหาเหล่านี้ถือว่าเป็นข้อหาพื้นๆ ตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อเท่านั้น แต่ถ้าใครก้าวล่วงบังอาจให้ร้ายโจมตีสถาบันกษัตริย์ ก็จงเตรียมตัวรับข้อหา ม.112 ด้วยเลย และถ้าใครถูกศาลตั้งเงื่อนไขให้ประกันตัวไว้ แล้วยังมาขึ้นเวทีนี้อีก จงเตรียมใจไปนอนซังเตได้ ถึงเวลานั้น คิดจะปากกล้า ก็อย่าขาสั่น ก็แล้วกัน" นายศรีสุวรรณ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: