ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานวันนี้ (17 พ.ค.) เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 9.30 น. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก 'เมย์' (นามสมมติ) เยาวชนอายุ 16 ปี อดีตนักเรียนในจังหวัดพิษณุโลก ได้เดินทางจากกรุงเทพฯ มารับทราบข้อกล่าวหามาตรา 112 หลังถูกแน่งน้อย อัศวกิตติกร อดีตสมาชิก ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) เข้าแจ้งความกล่าวหาว่าได้โพสต์เฟซบุ๊กมีข้อความหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ช่วง พ.ย. 2563 โดยขณะเกิดเหตุเธอมีอายุเพียง 14 ปี 1 เดือนเศษ ทำให้เธอกลายเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112
สำหรับคดีนี้ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ออกหมายเรียก 'เมย์' ขณะที่อายุ 14 ปี เข้าสอบปากคำในฐานะพยานว่ารู้เห็นเกี่ยวกับการกระทำความผิดในการโพสต์ข้อความตามที่ถูกแน่งน้อย มาแจ้งความกล่าวหาไว้หรือไม่ โดยในการสอบสวนไม่ได้มีการจัดหาสหวิชาชีพ ได้แก่ นักจิตวิทยาและพนักงานอัยการ ร่วมสอบสวนพยานเด็ก ตามกฎหมายพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวด้วย แต่ในวันดังกล่าว ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาแต่อย่างใด
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมสำนวนสอบสวน และทำความเห็นสมควรไม่ฟ้องคดีไปยังพนักงานอัยการจังหวัดพิษณุโลก แต่พนักงานอัยการได้มีคำสั่งกลับมาให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาแก่เมย์ ทำให้คดีนี้ต้องดำเนินต่อไป โดย พ.ต.ท.พิเชษฐ ปันกาวี รองผู้กำกับ (สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก เป็นผู้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาฉบับลงวันที่ 3 พ.ค. 2566 โดยเมย์มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 15 พ.ค. 2566
เวลา 9.30 น. "เมย์" พร้อมผู้ปกครองและที่ปรึกษากฎหมาย ได้เดินทางเข้าพบตำรวจตามนัด ร.ต.อ.อิทธิพล มยุรี พนักงานสอบสวน ได้จัดให้แบ่งการสอบสวนเป็น 2 ห้องในสถานีตำรวจ โดยมี เมย์, นักจิตวิทยา และผู้ปกครองอยู่ห้องหนึ่ง และมีพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ และที่ปรึกษากฎหมายอยู่อีกห้องหนึ่ง โดยมีการสื่อสารผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์และถามคำถามในการสอบปากคำผ่านนักจิตวิทยา
พนักงานสอบสวนได้อ่านบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาให้เมย์ฟัง โดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2563 เวลาใดไม่ปรากฏชัด ผู้ต้องหาใช้เฟซบุ๊กพิมพ์ข้อความเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยถ้อยคำเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ และเมื่อเวลา 23.32 น. ของวันเดียวกัน ผู้ต้องหาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการเซ็นรัฐประหารและการใช้ภาษีประชาชน
ผู้กล่าวหาพบเห็นข้อความดังกล่าวจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ฐานหมิ่นประมาท หรือดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3)
เมย์ ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และพนักงานสอบสวนให้เมย์พิมพ์ลายนิ้วมือตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ก่อนนัดให้ไปรายงานตัวที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลกในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เพื่อยื่นขอออกหมายขัง
เวลา 13.30 น. ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอควบคุมตัวเมย์ ไว้ระหว่างการสอบสวน ทั้งที่เธอมาพบตามหมายเรียก โดยอ้างว่าเป็นความผิดร้ายแรงและการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการประกันตัว
ต่อมา ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 3 ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณา โดยอ่านบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาให้เมย์ฟังอีกครั้ง และสอบถามว่าเข้าใจการแจ้งข้อกล่าวหานี้หรือไม่ ก่อนศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ควบคุมตัวไว้ระหว่างสอบสวนและอนุญาตให้ผัดฟ้อง พร้อมแจ้งให้ผู้ปกครองไปทำเรื่องประกันตัวที่ห้องประชาสัมพันธ์ต่อไป โดยในระหว่างรอการประกันตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจศาลได้ควบคุมตัวเมย์ไว้บริเวณหน้าห้องพิจารณาตลอดเวลา
ต่อมา เวลาประมาณ 16.00 น. ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลกมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างสอบสวน โดยให้วางหลักประกันไว้จำนวน 20,000 บาท โดยทางครอบครัวได้จัดเตรียมหลักประกันดังกล่าวมา หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ศาลได้แจ้งใบนัดเมย์ไปให้การที่สถานพินิจ และนัดให้มารายงานตัวที่ศาลต่อไป
"เมย์" ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกไปให้การในฐานะพยานเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน ตนได้รับผลกระทบอย่างมาก ทั้งการมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลเข้ามาพบที่บ้าน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบมานอนเฝ้าหน้าบ้าน และยังเคยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเรียกพบในโรงเรียนด้วย จนเป็นสาเหตุหนึ่งให้ “เมย์” ต้องลาออกจากโรงเรียน และย้ายไปอยู่อาศัยที่กรุงเทพฯ แต่หลังจากผ่านเกือบ 2 ปี และในตอนแรกคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว กลับถูกออกหมายเรียกมาแจ้งข้อหาในที่สุด ทำให้เธอและครอบครัวต้องเดินทางจากกรุงเทพฯ กลับมาที่พิษณุโลกอีกครั้ง