นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 26 - 31 สิงหาคม 2562 ปภ.ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่จากสภาพอากาศที่ส่งผลให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางพื้นที่ และคลื่นลมทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น คลื่นสูง 2 – 3 เมตร อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินถล่ม จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ให้ติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากน้ำท่วมขัง น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี นครนายก เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ส่วนพื้นที่ที่ต้องติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากดินถล่ม ได้แก่ กาญจนบุรี จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล
ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าว โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนระวังอันตราย ตลอดจนเข้มงวดมาตรการความปลอดภัยทางทะเล กำชับสถานประกอบการในพื้นที่ริมชายฝั่งทะเลแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว ห้ามประกอบกิจกรรมทางทะเลทุกประเภทในช่วงที่มีคลื่นลมแรง รวมถึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ยังกล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2562 ถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ในพื้นที่ 22 จังหวัด ได้แก่ สตูล ตราด ปัตตานี กาญจนบุรี อุดรธานี ตรัง นครนายก ระนอง อุบลราชธานี หนองคาย น่าน เชียงใหม่ บึงกาฬ เชียงราย สกลนคร นครพนม พะเยา อุตรดิตถ์ มุกดาหาร เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน และแพร่ มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 1,113 หลัง ผู้บาดเจ็บ 3 ราย ปภ. จึงได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น พร้อมจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อให้ช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป อย่างไรก็ตามในระยะนี้พื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออก ให้เฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยด้วย