วันที่ 2 พ.ย. ที่อาคารรัฐสภา ภคมน หนุนอนันต์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี วุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการของพรรคก้าวไกลว่าไม่เป็นธรรมว่ามติของพรรคมีความชัดเจนและมีการแถลงข่าวไปแล้ว แต่อยากให้เข้าใจว่าไม่สามารถนำรายละเอียดของการพิจารณามาเปิดเผยต่อสาธารณะได้ เพราะต้องคำนึงถึงผู้เสียหายด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อมติออกมาแล้ว หากจะเรียกร้องให้เคารพมติก็ดูเป็นการเรียกร้องเกินไป ก็เป็นสิทธิ์ที่ วุฒิพงศ์ จะแสดงความเห็นหรือตั้งข้อสงสัย แต่ยืนยันว่าการประชุมพรรคนานถึง 6 ชั่วโมง มีการพูดคุย ซักถามรายละเอียดกันมากพอ เป็นไปด้วยความเครียด ยืนยันว่าไม่ได้มีการชี้นำ มีการซักจนสิ้นข้อสงสัย จนนำไปสู่การลงมติ
ส่วนกรณี วุฒิพงศ์ ตั้งข้อสงสัยว่าการที่พรรคตั้งสส. ขึ้นมาเป็นกรรมการวินัยจะเป็นการชี้นำ สะท้อนถึงความไม่โปร่งใส ภคมน ระบุว่า กรรมการวินัยไม่ได้ลงมติทั้งหมด มีคนที่สงวนสิทธิ์ไว้เพื่อให้ผลเป็นกลางที่สุด แต่ขอสงวนรายละเอียดเพราะเป็นข้อตกลงร่วมกัน แต่ยืนยันว่าในกระบวนการทั้งหมดยุติธรรมมากพอ ไม่ใช่ สส.ทุกคนต้องยอมรับมติทุกอย่างของพรรค ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงออก แต่ในกระบวนการต้องมีข้อยุติ ซึ่งเราคิดว่าเหมาะสมและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายแล้ว
ส่วนที่แกนนำคณะก้าวหน้าออกมาเรียกร้องให้ สส.ทั้ง 2 คนลาออก ภคมน กล่าวว่าในส่วนของสายวุฒิพงศ์ที่มีการขับออกนั้น ถือเป็นการตัดสินใจของเขา แต่ตนเข้าใจว่า สังคมอยากเห็นท่าทีของพรรคต่อกรณี ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. อยากให้เข้าใจหลักการว่า เสียงมติที่เกิดขึ้น แม้จะไม่ได้นำไปสู่การขับออกจากพรรค แต่เสียงส่วนใหญ่ก็สามารถยืนยันหลักการได้ว่าเราไม่ได้เห็นด้วยตามมติ
พร้อมเน้นย้ำถึง สส. ว่าต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และนายไชยามพวานมีเวลาไตร่ตรอง ดังนั้นต้องคิดไตร่ตรองเพื่อหาทางออกให้สังคม ซึ่งตอนนี้ตนคิดว่าติองทราบได้แล้วว่าจะหาทางออก ชี้แจงต่อสังคมอย่างไร ซึ่งตนได้ไปย้อนดูคำสัมภาษณ์ของไชยามพวานเมื่อวานนี้ เขาก็ยืนยันชัดเจนว่าไม่ผิด
“อยากให้เขาทบทวนดูดีๆ ผิดหรือไม่ผิดคงไม่มีหลักเกณฑ์ มาตรฐานทางกฎหมาย แต่ทบทวนในฐานะคนที่เป็นผู้แทยราษฎร ว่าคุณสามารถครองตนในการกระทำเช่นนั้นเหมาะสมหรือไม่”
เมื่อถามว่าการที่มติออกมาไม่เท่ากัน สะท้อนว่าในพรรคมีก๊กหรือไม่ ภคมน กล่าวว่า มีความพยายามที่จะสร้างความเข้าใจแบบนั้น แต่ในฐานะที่ตนเองอยู่ตรงนั้น 6 ชั่วโมง ยืนยันว่าไม่ได้ถูกใครชี้นำ ทุกอย่างพิจารณาในรายละเอียดของแต่ละกรณี
ส่วนที่มีการเรียกร้องให้มีการเปิดเผยมติเนื่องจากไม่ได้เป็นการโหวตลับ ภคมน ระบุว่าการเปิดรายชื่อคงไม่มีผลอะไร สิ่งทีเราเรียกร้องคือความผิดเห็นชัดแล้วว่าคุกคามทางเพศ ซึ่งเราต้องการและคาดหวังให้คนคนนึงรับผิดชอบสูงสุด เราคาดหวังสิ่งนั้นมากกว่า
“ฝากถึงคุณปูอัด (ไชยามพวาน) เราคาดหวังความรับผิดชอบสูงสุดของเขาในการกระทำทั้งหมดได้ขนาดไหน เราไม่รู้ว่าคุณจะปล่อยเวลาให้นานแค่ไหน เราคงไม่ได้บอกว่าตอนนี้เราคือส่วนรวมที่ต้องรับภาระจากการกระทำของคุณอยู่ เราคงไม่พูดแบบนั้นเพราะเราต้องรับผิดชอบราวมกันอยู่แล้ว เพียงแค่เรียกร้อง สำนึกของคนคนหนึ่งก็แล้วกัน “
ส่วนที่ สส.หญิงออกมาเรียกร้องผ่านโซเชียลมีเดีย สะท้อนถึงความไม่เท่าเทียม ของเพศหญิงและเพศชายในพรรคก้าวไกลหรือไม่นั้น ภคมน ระบุว่าไม่อยากให้มองแบบนั้น ไม่อยากให้ตัดสินจากหน้าโซเชียลมีเดีย เพราะมีหลายคนที่ยังไม่ได้โพสต์ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่อง สส.หญิงหรือชายแต่เป็นเรื่องสำนึกของบุคคลคนนั้น อยากเรียกร้องตรงนี้ว่าในจุดที่แย่ที่สุดแล้ว เราคาดหวังสำนึกจากคนคนหนึ่ง อยากรู้ว่ามันจะได้ขนาดไหน
ส่วนหากท้ายที่สุดแล้วสสใช้ยามผวารไม่ได้ปฏิบัติตามมติของพรรคจะมีกรอบเวลาในการดำเนินการขั้นต่อไปหรือไม่ ภคมน ระบุว่าคงไม่นานขนาดนั้น แต่ยังเชื่อว่า ไชยามพวาน คงไม่ปล่อยเวลาไปนานขนาดนั้น เพราะไม่เชื่อว่าคนคนนึง จะไม่มีจิตสำนึก ปล่อยให้เป็นภาระของส่วนรวม
ส่วนจะไปยื่นองค์กรภายนอกตรวจสอบหรือไม่นั้น ตนยังเชื่อว่าคนที่จะมารวมตัวกันที่นี่คงไม่ไร้จิตสำนึกจนปล่อยให้ทุกอย่างไม่มีคำตอบ
ส่วนกรณี วุฒิพงศ์ กล่าวว่าพร้อมจะฟ้องกลับผู้กล่าวหาพรรคก้าวไกลจะดูแลในส่วนนี้ให้กับผู้ร้องหรือไม่ ภคมนระบุว่าเรื่องนี้ต้องคุยกันในรายละเอียด แต่สิ่งที่แย่ที่สุดของเรื่องนี้คือคนที่กระทำผิดไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งที่ทำนั้นผิด