พรรคเพื่อไทย จัดงานเสวนาระดมความคิด "ฝ่าวิกฤติประเทศไทย ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ" โดยผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย ดร.โภคิน พลกุล รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย, นายวัฒนา เมืองสุข ,กรรมการยุทธศาสตร์เพื่อไทย, รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช อดีตกรรมการนโยบาย และกำกับบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง, ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร

สร้าง รธน.ให้เหมือนสร้างบ้าน เริ่มต้นจาก ดร.โภคิน ได้บอกว่า การออกแบบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เกิดปัญหามากมาย จะเห็นได้จากการที่รัฐบาล มีพรรคการเมืองที่มากมาย จึงทำให้กลไกของรัฐอ่อนแอลง ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งของคนกลุ่มเดียว ก็จะทำเพื่อตอบแทนกลุ่มคนที่เลือก ไม่ได้ทำเพื่อส่วนรวม ดังนั้นการออกแบบรัฐธรรมนูญต้องทำให้ตอบโจทย์ประชาชน แก้ปัญหาประเทศชาติ หรือสร้างรัฐธรรมนูญให้เหมือนสร้างบ้าน เชื่อว่าจะทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้อย่างเข้มแข็ง แม้การแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะทำได้ยาก แต่อยากจะเสนอให้นำแบบอย่างในอดีตมาปรับ ประชาชนทุกกลุ่ม ต้องร่วมกันที่จะเห็นพ้องต้องกัน เพื่อให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าเห็นพ้องในมาตราใดที่ควรแก้ ก็จะทำได้ง่าย ส่วนประเด็นไหนที่เห็นต่างกันก็หารือร่วมกัน เชื่อว่าหากรัฐธรรมนูญที่ประชาชนเป็นคนสร้าง จะเปิดโอกาสให้ประชาชนเดินหน้าได้อย่างเต็มที่

รธน. 60 เป็นฝันร้ายทางการเมือง ด้าน รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย กล่าวถึงโจทย์ฝ่าวิกฤติประเทศไทยด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องย้อนก่อนว่า วันนี้มีเรื่องใดบ้าง ด้านเศรษฐกิจ ถ้ามาดูเรื่องโครงสร้าง จะเห็นว่าการกระจายไปสู่พี่น้องประชาชนมันไม่เกิดขึ้น ด้านสังคม ไม่ว่าจะเรื่องฝุ่น PM 2.5 หรือไวรัสโควิด-19 ซึ่งโครงสร้างจะเห็นว่าเกิดจากความเหลื่อมล้ำทางสังคม ปฏิบัติด้วยความไม่เท่าเทียมกัน ด้านการเมืองในวันนี้ นักศึกษาออกมาจัดกิจกรรมแฟลชม็อบกัน ทางโครงสร้าง ก็คือรัฐบาลมีการรวมศูนย์อำนาจ ไม่มีการกระจายอำนาจให้แก่ประชาชนมากเท่าที่ควร ส่วนของประเทศไทยภาพรวม มันจะมีความสัมพันธ์กับทั้งหมด ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้น เกิดจากความไม่สมดุล แต่ทั้งหมดนี้ พื้นฐานก็เกิดมาจากรัฐธรรมนูญปี 60 ที่มีปัญหา "ที่มาของรัฐธรรมนูญปี 60 ก็เกิดมาจากรัฐประหารปี 57 เปรียบเสมือนกล่องแห่งความฝัน แต่เผอิญสิ่งที่เกิดขึ้น มันคือฝันร้ายทางการเมือง ส่วนกระบวนการในการร่าง ก็เกิดมาจากความไม่เป็นประชาธิปไตย กฏหมายร่างโดยใคร ก็มักจะตอบสนองคนนั้น" ส่วนในเรื่องกรอบกติกาที่กำหนดขึ้นมา ทำให้รัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นนั้น ถูกบดบังในสาระ ที่สำคัญคือประชาชนขาดการมีส่วนร่วม รัฐบาลทำหน้าที่ฝ่ายเดียว รัฐธรรมนูญนี้ทำให้เกิดรัฐบาลผสม สิ่งเก่าวนเวียนอยู่แบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นโควตาทางการเมือง หรือในส่วนอื่นๆ ที่บอกว่าจะออกแบบมาเพื่อปราบโกง ส่วนตัวไม่เห็นด้วยว่าจะเกิดขึ้นจริง ทางออกที่ดีต้องเกิดจากการมีส่วมร่วมของทุกคน

เพิ่มอำนาจประชาชน ด้วยกติกาประชาชน ด้านนายวัฒนา มองว่ารัฐธรรมนูญคือกติกาการอยู่ร่วมกันของสังคม การจะเกิดกติกาได้ ต้องได้รับการยอมรับร่วมกัน แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นการยอมรับฝ่ายเดียว เป็นการปกป้องการใช้อำนาจของคนกลุ่มเดียว นำมาซึ่งความขัดแย้งของสังคม ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของนักลงทุน การเมือง สังคม รวมถึงกระบวนการยุติธรรม จะเห็นได้จากการตัดสินคดีที่แปลกๆ เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาเพื่อห้ามให้ตรวจสอบศาล

ดังนั้นต้องเพิ่มอำนาจให้ประชาชนมีอำนาจในกระบวนการไต่สวนด้วย และการจะแก้ไขกติกาให้อยู่ร่วมกันได้ ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการออกแบบกติกากันเอง เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยเฉพาะทางเศรษฐกิจ ซึ่งถึงเวลาที่ทุกคนต้องยอมรับร่วมกันแล้วว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดปัญหา ถ้าไม่แก้ไขก็จะได้รัฐบาลแบบเดิม ประชาชนจะทนได้หรือไม่ในสภาพที่ประเทศต้องเผชิญกับปัญหาที่มากมายแบบนี้ ด้านนายสมชัย ตั้งคำถามให้ชวนคิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นใครคือผู้ร้าย ที่ทำให้เกิดวิกฤติมากมาย รัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ แล้วใครคือพระเอก ใช้การแก้ไขหรือเปล่า ผู้ร้ายจะมีจริงไหม หรือเป็นเพราะเกิดจากใครคนใดคนหนึ่ง ต้องทำการพิสูจน์