วันที่ 27 ก.พ. พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่ กทม. ซึ่งเป็นคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ จำนวน 14 คน

โดย เฉลิมชัย กล่าวว่า นี่คือช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลงของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นก้าวแรกของพัฒนาการ ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่มีพื้นที่แสดงความเห็น แล้วจะผลักดันให้ทุกคนเหล่านี้มาเป็นผู้บริหารพรรคและผู้นำประเทศต่อไปในอนาคต รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ เรายังมีคนรุ่นใหม่อีกกว่า 100 เขต ซึ่งเป็นความหวังของพรรค

"ผมให้คำมั่นสัญญาว่า น้องๆ รุ่นใหม่ทุกคน มีอุดมการณ์แน่วแน่มั่นคง พร้อมจะทำงานให้กับพี่น้องประชาชนทุกๆ คน" เฉลิมชัย กล่าว

1) อภิมุข ฉันทวานิช เขตบางคอแหลม บุตรชายของ นายสมเกียรติ ฉันทวานิช อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์

2) ศิริภา อินทรวิเชียร เขตพญาไท-ราชเทวี

3) ภูเบศร์ อภัยวงศ์ เขตบางซื่อ-ดุสิต เหลนของนายควง อภัยวงศ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าพรรคคนแรกของพรรคประชาธิปัตย์

4) ธัญญ์นิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ เขตดอนเมือง

5) วัทธิกร หรุ่นศิริ เขตสายไหม

6) พันธ์พิสุทธิ์ นุราช เขตบึงกุ่ม

7) เกศกานดา อินช่วย เขตคลองสามวา บุตรสาวของ นายวิรัช อินช่วย อดีต ส.ก.คลองสามวา พรรคประชาธิปัตย์

8) วณิชชา ม่วงศิริ เขตบางบอน-หนองแขม

9) ณัฐิดา เตาเฟ็ส เขตหนองจอก

10) จักรวี วิสุทธิผล เขตสวนหลวง-ประเวศ

11) นพ.วรวิทย์ เจริญพงษ์ เขตบางกอกน้อย

12) ธีรวิทย์ ภูมิดิษฐ์ เขตจตุจักร อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย

13) ประพฤติ ฉัตรประภาชัย เขตบางกะปิ

14) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง เขตคลองเตย-วัฒนา อดีตโฆษกฯ กทม. และบุตรชายของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

องอาจ ยังเผยว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่ กทม. ครบทั้ง 33 เขต อีกครั้ง ในวันที่ 6 มี.ค. ศูนย์กีฬาเวสน์ 2 ดินแดง โดยจะเป็นการผสมผสานกันระหว่างคนทุกช่วงวัยและสาขาอาชีพ

'พงศกร' เผย 'อภิสิทธิ์' ชักชวน

ร.ต.อ.พงศกร เผยถึงเหตุผลที่เลือกลงสมัคร ส.ส.กับพรรคประชาธิปัตย์โดยระบุว่า เป็นพรรคที่มีความเข้าใจและผูกพันกับพื้นที่ กทม. มาอย่างยาวนาน ทั้ง ส.ก. ส.ข. และผู้ว่าฯ ของพรรคก็มีเครือข่ายและความเข้าใจในพื้นที่เป็นอย่างสูง และอีกประการคือเป็นพรรคที่มีความเป็นสถาบันทางการเมือง และไม่มีใครเป็นเจ้าของพรรค สมาชิกพรรคสามารถพูดได้ทุกเรื่อง โดยมีผู้รับฟัง

"ถ้าเราเข้าพรรคที่ไม่ได้เป็นสถาบันทางการเมืองอย่างแท้จริง เป็นพรรคเฉพาะกิจ หลายอย่างที่ต้องการจะผลักดัน อาจจะมีปัญหา ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีปัญหานั้น เพราะเป็นพรรคที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นสถาบันการเมืองคู่กับคนไทยมาตลอด จึงมั่นใจว่าหากผมจะต้องการผลักดันนโยบายตามที่พูดไป พรรคประชาธิปัตย์จะสามารถทำได้อย่างแท้จริง"

ส่วนเหตุที่ไม่ได้ตาม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. ไปสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ร.ต.อ.พงศกร ยืนยันว่า ไม่ใช่เพราะปัญหาเกี่ยวกับการวางตัวผู้สมัคร แต่เป็นความเห็นต่างทางการเมืองระหว่างตนและคุณพ่อ แต่เราทั้งสองล้วนตั้งใจจะทำให้ประเทศไทยดีขึ้น พร้อมยอมรับว่าพรรครวมไทยสร้างชาติเองก็เคยมาชักชวนตน โดยเฉพาะผ่านทางคุณพ่อ แล้วเมื่ออธิบายเหตุผลแล้วจึงเข้าใจกัน ไม่ใช่เป็นศัตรูกัน

"เป็นการแข่งขันทางการเมือง แต่คุณพ่อก็ยังเป็นคุณพ่อผม เพียงแต่มีความเชื่อที่แตกต่างกัน เลือกเส้นทางของละทาง สุดท้ายแล้วทุกคนก็อยากทำให้สังคมดีขึ้น ท่านก็บอกแค่ว่า ต้องขยันกว่าเขานะ เพราะเราเป็นหน้าใหม่ ไม่ใช่นักการเมืองที่มีประสบการณ์สูงเหมือนท่านอื่น แต่ด้วยความที่เราทำเต็มที่ ท่านก็หวังว่าเราจะประสบความสำเร็จ แต่ท่านก็ต้องช่วยพรรครวมไทยสร้างชาติ"

ร.ต.อ.พงศกร ยังเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีหลายพรรคเข้ามาทาบทามเช่นกัน แม้จะไม่สามารถพาดพิงเอ่ยชื่อพรรคได้ แต่พรรคการเมืองใหญ่ 6 พรรค มีเข้ามาทาบทามแล้ว 5 พรรค

ร.ต.อ.พงศกร ยังระบุว่า บุคคลที่มีส่วนสำคัญทำให้เข้าพรรคประชาธิปัตย์ คือ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรค ซึ่งตนมีความเคารพมาตั้งแต่เด็กๆ และได้เข้าปรึกษาพูดคุย ขณะที่วันสุดท้ายที่ตัดสินใจเข้าพรรค ท่านก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง

ส่วนจะมีการเชิญชวน อภิสิทธิ์ มาช่วยหาเสียงด้วยหรือไม่นั้น ร.ต.อ.พงศกร กล่าวติดตลกว่า เวลานี้ท่านกำลังบินกลับจากนิวคาสเซิล อาจจะกำลังผิดหวังอยู่ แต่ต่อไปก็อาจมีโอกาสเชิญชวนมา เพราะท่านก็เป็นอดีต ส.ส.เขตวัฒนา เช่นกัน

สำหรับเขตคลองเตยวัฒนานั้น ยอมรับว่าไม่ได้มีความมั่นใจนัก เพราะผู้สมัครแต่ละคนจากแต่ละพรรคการเมือง ล้วนมีศักยภาพสูง ไม่ได้มีความมั่นใจว่าจะชนะ แต่ตั้งใจว่าจะทำให้เต็มที่ เพื่อให้เป็นตัวเลือกที่ดีและมีประโยชน์ หากคนคลองเตย-วัฒนา ให้ความเมตตา ตนสามารถทำประโยชน์ให้กับพื้นที่ได้แน่นอน