การประชุมวิสามัญพรรคชาติพัฒนาครั้งที่ 1 ปี 2561 มีระเบียบวาระสำคัญคือการเลือกกรรมการบริหารพรรค ลองใช้เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง โดยที่ประชุมพรรคชาติพัฒนามีมติเลือก นายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีต ส.ส.นครราชสีมา เป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา แทน นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล

ส่วนกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ประกอบด้วย นายประเสริฐ บุญชัยสุข เป็นรองหัวหน้าพรรค คนที่ 1, นายประสาท ตันประเสริฐ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 2, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรค คนที่ 3, พล.อ.ฐิติวัจน์ กำลังเอก รองหัวหน้าพรรคคนที่ 4, นายณัฏฐชัย ศรีรุ่งสุขพินิจ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 5, นายปกครอง ผาสุขยืด รองหัวหน้าพรรคคนที่ 6, นายสาคร พรหมภักดี รองหัวหน้าพรรคคนที่ 7, นายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 8 และนายธงชัย ลืออดุลย์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 9 ขณะที่ นายดล เหตระกุล เลขาธิการพรรค 

นางเยาวภา บุรพลชัย เป็นโฆษกพรรค และนายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา เป็นผู้อำนวยการพรรค นอกจากนี้ ยังได้มีการเปิดตัวโลโก้พรรคใหม่ โดยใช้ ช ยอดปลาย ลายกนกชี้ขึ้นซึ่งหมายถึง การสร้างสรรค์เศรษฐกิจให้เจริญ รุ่งเรืองและความกลมเกลียวสร้างสันติสุขให้กับประเทศชาติในอนาคต

นายเทวัญ กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของพรรค โดยระบุว่าคณะกรรมการบริหารพรรคพร้อมทุ่มเททำงาน โดยยึดมั่นในความซื่อสัตย์ สุจริต คุณธรรม เสียสละ และยึดมั่นผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ขณะที่ทิศทางของพรรคชาติพัฒนาหลังจากนี้คือเดินสายกลาง เพื่อเป็นทางเลือก และพร้อมเป็นทางออกให้กับประเทศ

ทั้งนี้ พรรคจะใช้สโลแกนหาเสียงว่า “ชาติพัฒนา No problem” เพื่อทำให้การเมืองยุคใหม่ และทำให้เห็นว่า พรรคชาติพัฒนาไม่มีปัญหา หรือเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ทั้งนี้เพื่อให้การเมืองมีความผ่อนคลาย หลังจากนี้ไปคือการให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เดินหน้าสร้างความปรองดอง เดินทางสายกลางทางการเมือง การประณีประนอม เข้าได้กับทุกฝ่าย ไม่ขัดแย้งกับใคร เพื่อสร้างสรรค์ความเจริญด้านเศรษฐกิจไทย

จากนั้นนายเทวัญ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ จะนัดกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ประชุม โดยมีวาระสำคัญ คือ ขอความเห็นว่าจะให้นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของพรรคหรือไม่

นายเทวัญ กล่าวถึงทิศทางทางการเมืองของพรรคว่า ในพื้นที่จ.นครราชสีมา จะส่งครบทั้ง 14 เขต ส่วนในพื้นที่อื่นพรรคก็จะส่งให้มากที่สุด โดยยอมรับว่า มีความกังวลเล็กน้อย จากที่หลายพรรคการเมืองพุ่งเป้าแข่งขันเพื่อแย่งส.ส.ในพื้นที่ แต่เชื่อว่า ชาติพัฒนา ที่ทำงานและสร้างผลงามในพื้นที่ยังเป็นที่ยอมรับของประชาชน แต่สุดท้ายการเลือกตั้งก็ขึ้นอยู่ว่า ประชาชนจะพิจารณา

เบื้องต้นไม่สามารถไม่ประเมินว่า จะได้ ส.ส. กี่ที่นั่ง แต่ยืนยันว่า จะขอเป็นพรรคขนาดกลาง แต่ตนเชื่อว่า บางพื้นที่เคยมีอดีต ส.ส. เช่น นครราชสีมา นครสวรรค์ ยังมีความหวังว่า จะได้ ส.ส.

พร้อมระบุด้วยว่าที่ผ่านมา พรรคชาติพัฒนา เคยเป็นทั้งพรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายค้าน ดังนั้นการตัดสินใจเข้าร่วมกับฝ่ายใดก็พิจารณาผลประโยชน์ที่เกิดกับประเทศเป็นหลัก